“เปรมฤดี” ประกาศขอโอกาสรับใช้บ้านเมืองอีกครั้ง ดันให้พิษณุโลกเป็น “นครน่าอยู่สำหรับทุกคน”


วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประกาศลาออกของนางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เมื่อวันที่  13 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทาง กกต.ได้กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ระหว่างวันที่  24-28 ก.พ.และจะมีการเลือกตั้งในวันที่  30 มี.ค. ส่งผลให้การเมืองท้องถิ่นเทศบาลนครพิษณุโลกเริ่มน่าจับเป็นอย่างมาก และมีกลุ่มผู้สมัครเริ่มทยอยเปิดตัวเพื่อเตรียมลงสมัครแล้ว โดยเฉพาะที่ศูนย์ประสานงานคณะลูกนเรศวร ถ.ศรีถมอรัตน์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ดร.เปรมฤดี ชามพูนท อดีตนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ฟอร์มทีมคณะลูกนเรศวร ประกาศความตั้งใจขอโอกาสกลับมาทำงานรับใช้บ้านเมืองอีกครั้ง ย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาจังหวัดพิษณุโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการสร้างเมืองที่สร้างสรรค์และเหมาะสำหรับคนทุกช่วงวัย พร้อมชูจุดแข็งด้านประสบการณ์ ความรู้ และความสามารถ รวมพลังคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมกันผลักดันให้พิษณุโลกเป็น “นครน่าอยู่สำหรับทุกคน”

ดร.เปรมฤดี ชามพูนท ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ได้วางระบบการบริหารเมืองที่เน้นการพัฒนาเชิงโครงสร้างและคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งรวมถึงการประสานงานและวางแผนโครงการสำคัญที่มีเป้าหมายในการยกระดับพิษณุโลกให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างแท้จริง
ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเศรษฐกิจเมือง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เมื่อวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ก็คิดอยู่นานเหมือนกัน ในทีมคือมีตัวนายกฯ และสมาชิกอีก 24 คน เวลากาบัตร 2 ใบมีปัญหาค่อนข้างมาก เพราะต้องเลือกทั้งตัวสมาชิก และตัวนายก ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีการสับสนกัน และบัตรเสียเยอะมากเพราะประชาชนไม่รู้ เราได้วิเคราะห์แล้วว่าการที่ลงจากตำแหน่งก่อน ไม่ได้เสียหายอะไร จะทำให้การเลือกตั้งไวขึ้น แต่การเลือกตั้งจะง่ายขึ้น เพราะเป็นการลงบัตรใบเดียว ไม่ต้องสับสนกับเลือกสมาชิก ประชาชนจะไม่สับสนบัตรเสียน้อย ก็ปรึกษากันกับผู้หลักผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว

กฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบันคือให้ลงได้ 2 ครั้ง ตนเองลงไป 1 สมัยแล้ว ก็ยังมีโอกาสอีก 1 ครั้ง ซึ่งตนเองนั้นยังมีนโยบายต่อเนื่องที่อยากจะทำให้จบคือการสร้างเมืองสร้างสรรค์ พัฒนาเมืองและยกเมืองของเราให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจังหวัด เป้าหมายของตนอยากให้มีคนเข้ามาอยู่มากินมาเที่ยวมาลงทุน ปัจจุบันเทศบาลนครพิษณุโลกประชากรหายไป 2 หมื่นกว่าคน หากเราไม่ได้ทำอะไรเลยไม่พัฒนาเมืองบ้านเมืองก็จะเงียบลงๆ สุดท้ายเทศบาลนครพิษณุโลกก็จะกลายเป็นเมืองที่เคยเจริญ

นอกจากนี้ยังมีที่เราทำมาแล้วอย่างเรื่องเมืองสุขภาพ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องเมืองน่าอยู่อันนี้เราทำหมดแล้ว เทศบาลนครพิษณุโลก ติด1 ใน 3 ของประเทศที่ผ่านเกณฑ์ ชี้วัด เราได้มาเยอะมาก ซึ่งตรงนั้นไม่ห่วงแล้ว เราห่วงแต่เรื่องสภาพของเมือง ทิศทางในการพัฒนาเมือง ทิศทางในการไปของจังหวัดจะเป็นอย่างไง เทศบาลนครพิษณุโลกเป็นเหมือนห้องรับแขกของเมือง ถ้าตรงนี้แย่ลงไปซบเซาลงไป หรือแย่ก็เหมือนกับจังหวัดก็จะเงียบไปด้วย
ดร.เปรมฤดีฯ เน้นย้ำว่า การพัฒนาเมืองที่แท้จริงต้องเป็น “การพัฒนาต่อเนื่อง” ไม่ใช่เพียงแค่การเริ่มต้นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมระหว่าง ภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อให้โครงการที่ได้ริเริ่มไว้เดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับเส้นทางการเมืองและบทบาทในท้องถิ่น ดร.เปรมฤดี ชามพูนท เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่มีบทบาทสำคัญในจังหวัดพิษณุโลก และเป็นภรรยาของ นายสุชน ชามพูนท นักการเมืองระดับชาติที่เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพิษณุโลกถึง 14 สมัย รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในหลายกระทรวง

เริ่มต้นเส้นทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนี้นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ถึง 5 สมัย

นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็น ประธานคณะกรรมาธิการด้านพัฒนาเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส จากสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ดร.เปรมฤดี ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกก่อนครบวาระ สร้างความสนใจและคาดการณ์ในแวดวงการเมืองท้องถิ่นว่าอาจเตรียมตัวสำหรับบทบาททางการเมืองครั้งใหม่

ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองและความสามารถในการบริหารงานที่สั่งสมมายาวนาน ดร.เปรมฤดีฯ ตั้งเป้าที่จะนำทีม “ลูกนเรศวร” ผนึกกำลังคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่ให้ทำงานร่วมกัน เพื่อสานต่อโครงการที่เธอได้วางระบบไว้แล้ว และเร่งผลักดันให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตามการประกาศตัวของนางเปรม ฤดีชามพูนท หัวหน้ากลุ่มคณะลูกนเรศวร แล้วคาดว่าเร็วๆ จะมีการประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก จากกลุ่มอื่นๆ ต่อไป
/////////

แสดงความคิดเห็น