แจ้งความจับเต็นท์รถมือ 2 หลอกขายรถติดไฟแนนซ์ให้ลูกค้า

พิษณุโลก  กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความจับสาวสวยสุดแสบเจ้าของเต็นท์รถมือ 2 หลอกขายรถติดไฟแนนซ์ให้ลูกค้า

วันที่ 17 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก กลุ่มผู้เสียหายหญิงและชายหลายรายได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีถูกหญิงสาวเจ้าของเต็นท์รถมือ 2 แห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลอกขายรถยนต์ติดไฟแนนซ์ให้กับลูกค้าบางรายซื้อรถมือ 2 เงินสดแต่ทางเต็นท์กลับไม่ให้เล่มทะเบียนรถ มารู้สุดท้ายกลายเป็นรถเถื่อนทางเจ้าของตัวจริงยังไม่ได้โอนรถเรียบร้อยแต่อย่างใด มิหนำซ้ำติดต่อเจ้าของเต็นท์แห่งนี้ไม่ได้และไม่ยอมออกมารับผิดชอบ มีการพูดจาข่มขู่คุกคามว่ารู้จักคนใหญ่คนโตไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งคาดว่ามีผู้เสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย และอาจจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้อีกที่ยังไม่ได้มาติดต่อเข้าแจ้งความ มูลค่าความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

โดยนายนิธิศ  ธนะชูติวีรนันท์  (แอดมินหนวด) เพจบางระกำดราม่า ได้พาผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความ โดยมี พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นคนรับเรื่องคดีทั้งหมดเอาไว้ พร้อมประสาน ร.ต.อ.สาลี  ดวงอุประ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดูแลความคืบหน้าทางคดีและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย

ด้าน นางสาวจินดาพร ชูเพ็ชร อายุ 29 ปี ชาว อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองกับสามีมาติดต่อเพื่อขอซื้อรถเก๋งยี่ห้อมาสด้าจากเต็นท์รถแห่งหนึ่งบริเวณใกล้เคียงสี่แยกอินโดจีน ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนั้นมาดูรถแล้วชอบตัดสินใจว่าจะซื้อจึงวางเงินดาวน์ไปจำนวน 3 หมื่นบาท ราคาขายเงินสด 160,000 บาท ให้รอ 1 อาทิตย์ ว่าเช็คเครดิตผ่านไหม จนรอไปเกือบหนึ่งเดือนเต็นท์รถก็ยังไม่ติดต่อมาจึงทักไปถามหญิงสาวเจ้าของเต็นท์รถมือ 2 จึงพูดกลับมาว่าพี่จะขายตัดเงินสดเอาไหมลดให้เหลือเพียง 8 หมื่นบาท จึงต้องหาเงินสดไปจ่ายอีก 5 หมื่นบาท และให้นำเงินไปจ่ายในวันนี้วันเดียวเท่านั้น และนัดจ่ายเงินทำสัญญารับรถไปตรวจสภาพที่ขนส่ง แต่สุดท้ายผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่ได้เล่มทะเบียนรถ ทางเต็นท์รถมือ 2 อ้างว่าอยู่ระหว่างโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถคนเก่าอยู่ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อหญิงสาวเจ้าของเต็นท์รถได้เลย ตนเองกับสามีไปเช็คที่ขนส่งภายหลังทราบว่าเจ้าของรถตัวจริงอยู่กทม. และรถก็ไม่ได้ต่อภาษีมาแล้วเป็นเวลา 4 ปี คล้ายเป็นรถเถื่อนไม่ถูกกฎหมาย จึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปโพสต์เตือนภัยในกลุ่มข่าวสารโซเชียลมีเดียของ จ.พิษณุโลก แต่กลับถูกหญิงสาวเจ้าของเต็นท์รถทักมาข่มขู่ให้ลบโพสต์ทันที และโพสต์ขอโทษตนเองที่ทำให้เสียหาย ไม่เช่นนั้นจะแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท ตนจึงตัดสินใจไม่อยากให้เรื่องเงียบและต้องการทวงคืนความยุติธรรม จึงรวมกลุ่มกับผู้เสียหายอีกหลายรายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ให้ดำเนินคดีกับหญิงสาวเจ้าของเต็นท์รถตามกฎหมาย

ด้าน พระศราวุธ บุญเชิดชู พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนเองให้ญาติพามาดูรถที่เต็นท์แห่งนี้ และตัดสินใจซื้อรถเก๋งมิตซูบิชิ ซึ่งถามหญิงสาวเจ้าของเต็นท์ก่อนแล้วว่ารถติดไฟแนนซ์หรือไม่ ทางเต็นท์ก็ยืนยันว่าไม่ติดไฟแนนซ์ แต่ให้ผ่อนกับทางเต็นท์ได้เลย ราคาเงินสดประมาณ 2 แสนบาท แต่เลือกดาวน์ 20,000 บาท และทำการส่งงวดรถมาแล้ว 15 งวด งวดละ 4,000 บาท ทั้งหมดที่จ่ายไป 8 หมื่นบาท สุดท้ายกลับมีเจ้าหน้าที่จากไฟแนนซ์โทรติดต่อมาว่าค้างส่งค่างวดรถเป็นจำนวนถึง 4 งวด ก่อนจะถูกไฟแนนซ์ตามมายึดรถไป หลังจากนั้นได้พยายามติดต่อไปสอบถามกับเต็นท์รถก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย เมื่อไปที่เต็นท์ก็พบว่าได้ปิดเต็นท์เปลี่ยนเป็นเจ้าของอื่นไปแล้วด้วย วันนี้จึงตัดสินใจนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความกับตำรวจในเบื้องต้น

 

ด้าน นายสมชาย ฮวบนวม อายุ 48 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า รถเก๋งมิตซูบิชิที่พระศราวุธ บุญเชิดชู ซื้อจากเต็นท์แห่งนี้ไปเป็นรถของตนเอง ได้นำมาฝากไว้ที่เต็นท์และยังส่งค่ารถที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่ผ่านเต็นท์ แต่เต็นท์กลับไม่นำเงินไปจ่ายแถมยังแอบเอารถไปขายต่ออีกทอดหนึ่งด้วย ตนจึงต้องเดินทางมาแจ้งความเอาไว้ก่อน

 

นอกจากนี้ยังพบอีกว่าหญิงสาวเจ้าของเต็นท์รถมือ 2 ยังได้ไปกู้เงินนอกระบบกับหญิงสาวรุ่นพี่ที่รู้จักกันหลายแสนบาท สุดท้ายกลับเบี้ยวหนี้ไม่จ่ายเงินจนผู้เสียหายก็ได้เดินทางมาแจ้งความพร้อมกับกลุ่มผู้เสียหายเพิ่มเติมให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เบื้องต้นหากประชาชนท่านใดคาดว่าอาจจะตกเป็นเหยื่อหรือผู้เสียหายของเต็นท์รถมือ 2 แห่งนี้ สามารถเดินทางเข้าแจ้งความได้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ต่อไป.

///////////////

 

แสดงความคิดเห็น