ชาติชาย เอื้ออังกูรขจร จิตอาสาจราจร ผู้มุ่งมั่นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่นและวุ่นวาย ชายวัย 63 ปีในชุดจราจร หมวกฟ้า ผ้าพันคอเหลือง ยังคงยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยให้การสัญจรเป็นไปอย่างราบรื่น “ชาติชาย เอื้ออังกูรขจร” อดีตลูกจ้างเทศบาล ที่แม้จะเกษียณแล้ว แต่ยังคงเป็นจิตอาสาจราจรที่อุทิศตนเพื่อสังคม
ลุงชาติชายเคยเป็นลูกจ้างเทศบาลอำเภอแม่สอด ก่อนย้ายมาทำงานที่เทศบาลนครพิษณุโลกตามครอบครัว เมื่อเกษียณจากตำแหน่งพนักงานจ้างเทศกิจ ก็ยังคงทำหน้าที่เดิมในฐานะจิตอาสาจราจร ด้วยความเชื่อมั่นว่าสิ่งเล็ก ๆ ที่ตนทำสามารถช่วยให้สังคมดีขึ้น
ปัจจุบัน ลุงชาติชายปฏิบัติงานที่บริเวณหน้าวัดใหญ่ พิษณุโลก ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงค่ำ โดยได้รับความไว้วางใจจากสารวัตรจราจรให้ช่วยดูแลการสัญจร หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถประสานตำรวจได้ทันที ซึ่งช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลุงชาติชายเริ่มต้นงานตั้งแต่ 05.00 น. โดยเตรียมอุปกรณ์จราจร เช่น กรวย ป้ายเตือน และเส้นสัญลักษณ์ เพื่อจัดระเบียบการจราจรให้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะบริเวณสะพานนเรศวร ซึ่งเป็นจุดที่มีปริมาณรถหนาแน่นตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ในอดีต ลุงชาติชายเคยช่วยจัดระเบียบการจอดรถที่ตลาดร่วมใจ โดยแนะนำให้ผู้ใช้รถจอดเฉียงกับขอบถนน เพื่อให้สามารถถอยออกได้สะดวก ลดการกีดขวางจราจร ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยแก้ปัญหาได้ดี
แม้งานจะหนักและต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ลุงชาติชายยืนยันว่าทำด้วยใจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของเขา ระหว่างทำงาน มักมีประชาชนเข้ามาทักทายและให้กำลังใจ บางคนมอบขนมหรือน้ำดื่ม ซึ่งเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่สร้างความสุขให้กับลุงชาติชายได้มาก
ลุงชาติชายใช้รถกระบะเก่าของตนเองเป็นพาหนะและที่เก็บอุปกรณ์จราจร ค่าใช้จ่ายในการทำงานส่วนใหญ่เป็นค่าน้ำมันรถ ซึ่งบางครั้งลูกหลานต้องช่วยแบ่งเบาภาระ อย่างไรก็ตาม ลุงชาติชายกล่าวว่า ตราบใดที่ยังสามารถเติมน้ำมันและออกไปทำงานได้ เขาก็จะทำต่อไป
แม้งานของเขาอาจดูเล็กน้อยในสายตาคนทั่วไป แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นยิ่งใหญ่ เพราะช่วยให้ผู้คนเดินทางได้สะดวกและปลอดภัย สิ่งสำคัญที่ลุงชาติชายยึดมั่นคือ การทำงานด้วยความยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยมาตรฐานที่ดี
ปัญหาหลักที่พบคือ วินัยของผู้ใช้รถ เช่น การเปลี่ยนเลนกะทันหัน การจอดขวางทาง หรือการขับขี่โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น ซึ่งเขาพยายามแก้ไขด้วยการจัดระบบจราจรให้ชัดเจน เช่น การตั้งกรวยแยกช่องจราจรและทำเครื่องหมายแนวทางการขับขี่ที่ถูกต้อง
อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ลุงชาติชายใช้ ทั้งเสื้อผ้าจราจร หมวก ผ้าพันคอจิตอาสาพระราชทาน นกหวีดราคาเกือบ 300 บาท วิทยุ และกล้องติดตัว ล้วนมีความสำคัญในการทำงาน เขาต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนและมลภาวะบนถนน แต่ยังคงยืนหยัดตลอดวันกว่า 10 ชั่วโมง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ชายวัยเกษียณคนหนึ่งจะอุทิศตนเช่นนี้ได้ หากไม่มีใจรักและศรัทธาอย่างแรงกล้าในการทำความดี
หากพบลุงชาติชายที่หน้าวัดใหญ่ อย่าลืมส่งรอยยิ้มให้เขาสักครั้ง เพราะนั่นคือสิ่งที่จิตอาสาผู้เสียสละต้องการมากที่สุด
สุธีร์ เรืองโรจน์ รายงาน
Paul Wonder ถ่ายภาพ
…