ตร.ภ.6 ขนเหล่า avengers ผู้พิทักษ์โลกเปิดโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยสุขใจทุกคน

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 มกราคม 2568 ที่ตำรวจภูธรภาค 6 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วยเหล่าอเวนเจอร์ผู้พิทักษ์โลก ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางระกำ ร่วมพิธีเปิดโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยสุขใจทุกคน  เพื่อประกาศเขตที่ทำการเป็นพื้นที่สวมหมวกนิรภัย 100% เป็นแบบอย่างที่ดี ในการใช้รถใช้ถนนด้วยการขับขี่และนั่งซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัย ทั้ง 3 ระดับ ทั้งระดับตำรวจภูธรภาค ระดับกองบังคับการ และระดับสถานีตำรวจทั้ง 147 สถานี เพื่อจะสามารถช่วยลดความสูญเสียของประชาชนในพื้นที่ตลอดถึงพี่น้องประชาชนที่สัญจรผ่านพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 6 ได้อย่างปลอดภัย

พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 6 รับผิดชอบให้กำกับดูแลงานจราจรในภาพรวมของพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้มีการขับเคลื่อนงานทุกมิติผ่านศูนย์บริหารงานจราจรตำรวจภูธรภาค 6 หรือ ศจร.ภ.6 ซึ่งจากการวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เนื่องจากเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงรวมไปถึงการตัดสินใจเปลี่ยนเลนส์เลี้ยวรถกลับรถกะทันหัน จึงทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนกันบ่อยครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ของทุกปีซึ่งจะมีปริมาณลดเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษและสาเหตุรองลงมาคือการดื่มแล้วขับซึ่งได้มีการสั่งการเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ยังพบว่ามีปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนแต่ละครั้งมีความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกายสูงคือการขับขี่รถ/นั่งซ้อนท้าย ไม่สวมหมวกนิรภัย(ที่มีมาตรฐาน มอก.)

โดยในส่วนของกฎหมายข้อบังคับการสวมหมวกนิรภัยเป็นไปตามประกาศของกฎกระทรวงฉบับที่ 14 พ.ศ 2535 ว่าด้วย พรบ.จราจรทางบก พ.ศ 2522 มาตรา 122 มีผลบังคับใช้ทั่วทั้งประเทศตั้งแต่ปีพ.ศ 2538 เป็นต้นมาซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีของการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องหมวกนิรภัยจนถึงปัจจุบันได้รับการปฏิบัติตามน้อยมากและในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ศจร.ภ.6 จึงได้จัดทำโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยสุขใจทุกคนขึ้นโดยแยกการดำเนินการออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 การประกาศเขตที่ทำการเป็นพื้นที่สวมหมวกนิรภัย 100% เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้รถใช้ถนนด้วยการขับขี่และนั่งซ้อนท้ายสวมหมวกนิรภัยทั้ง 3 ระดับระดับตำรวจภูธรภาคระดับกองบังคับการและระดับสถานีตำรวจทั้ง 147 สถานี

ส่วนที่ 2 รณรงค์สวมหมวกนิรภัยในทุกรูปแบบด้วยการแสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทำกิจกรรมสำหรับการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัยทุกๆมิติสำหรับการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัยได้เน้นให้ทุกสถานีตำรวจนำผลการวิเคราะห์อุบัติเหตุจราจรของแต่ละพื้นที่เป็นฐานข้อมูลในการแสวงหาความร่วมมือจากทุกส่วนเพื่อลดความสูญเสียและขับเคลื่อนโครงการรณรงค์สวมหมวกในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการแจกหมวก การว่ากล่าวตักเตือน การบรรยายให้ความรู้การประชาสัมพันธ์ในทุกๆพื้นที่ รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เหมาะสมกับบริบทแต่ละพื้นที่จึงเรียนประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามโครงการข้างต้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีครอบครัวข้าราชการตำรวจหน่วยใดในสังกัดประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์แล้วได้รับอันตรายรุนแรงจากการไม่สวมหมวกนิรภัยอีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีต่อส่วนราชการและหน่วยงานอื่นๆอันจะเป็นพื้นฐานหรือบันไดก้าวแรกของการสร้างวินัยจราจรของคนไทยต่อไป

ศจร.ภ.6 เชื่อมั่นว่าหากได้รับความร่วมมือจากทุกท่านจะสามารถช่วยลดความสูญเสียของประชาชนในพื้นที่ตลอดถึงพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาผ่านพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 6 ได้อย่างปลอดภัยและมีความสุขกายสุขใจ

/////////////

 

แสดงความคิดเห็น