เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ชาวบ้านในตำบลพร้อมใจร่วมกันจัดเทศน์มหาชาติพระมหาเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ 1,000 พระคาถา เป็นประเพณีทุกปี โดยมีการเทศน์ที่วัดหนองสองเฒ่า หมู่ที่ 3 บ้านหนองกะท้าว เพื่อรอรับขบวนแห่กองผ้าป่าและเครื่องกัณฑ์เทศน์มหาชาติ กัณฑ์ชูชก ที่จะเคลื่อนมาจากที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 27 บ้านชายทุ่ง เวลาประมาณ 16.00 น. เพื่อนำมาถวายที่วัด รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีตัวแทนชาวบ้านแต่งกายเป็น ชูชก กัณหา ชาลี และนางมัทรี ร่วมในขบวนด้วย แต่มีไฮไลท์สำคัญเรียกความสนใจกับผู้ที่รอขบวนแห่อยู่ริมถนนทางผ่านก็คือ ผีชูชกหรือชูชกเหลือง จำนวน 9 ตน ที่นำผ้าเหลืองสีเฉกเช่นเดียวกับจีวรของพระสงฆ์ มาแต่งกายเหมือนมัมมี่ และสวมหน้ากากผี เดินร่วมในขบวนแห่ พร้อมกับห้อยปลัดขิกขนาดใหญ่ยาวไว้ที่เอวไปด้วย ระหว่างที่เดินไปก็จะเต้นรำไปตามเสียงเพลงของรถแห่และหยอกเย้ากับชาวบ้านที่ยืนดูขบวนแห่ทั้งสองข้างทาง นับว่าเป็นการสร้างสีสันอย่างสนุกสนาน ไม่มีการถือสากัน เพราะเป็นประเพณีที่สืบทอดต่อ ๆ กันมา โดยมีชาวบ้านในตำบลมาร่วมขบวนแห่กันจำนวนมาก ซึ่งขบวนแห่มาถึงวัดหนองสองเฒ่า เวลาประมาณ 18.00 น.
นายพจนารถ มณีณัฐกุล กำนันตำบลหนองกะท้าว เปิดเผยว่า ประเพณีดังกล่าวเป็นการสืบสานของชาวบ้านในตำบลหนองกะท้าวมาช้านานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายก็เห็นกันมาแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาสืบสานประเพณีดังกล่าวให้คงอยู่ โดยประเพณีนี้จะจัดขึ้นก่อนเทศกาลออกพรรษา 1 สัปดาห์ ชาวบ้านจะมาช่วยกันจัดขบวนแห่ และแต่งกายตามความเชื่อ มีทั้งชูชก กัณหา ชาลี และนางมัทรี โดยเฉพาะผีชูชกหรือชูชกเหลือง ที่จะมีที่นี่ที่เดียวในไทย ตัวแทนชาวบ้านจะนำผ้าเหลืองเป็นสีเหมือนจีวรพระสงฆ์ที่ถือว่าเป็นตัวแทนพระพุทธศาสนา มาแต่งตัวแทนเสื้อผ้าปกติ โดยจะมีพิธีบอกกล่าวปู่ย่าตายายขอขมาพระรัตนตรัยก่อนแต่งตัว พร้อมกับให้พระสงฆ์ปะพรมน้ำมนต์ให้ จากนั้นก็ใส่หน้ากากผีสีแดงตาถลนและแลบลิ้นยาว พร้อมกับห้อยปลัดขิกขนาดใหญ่ยาวโดยผูกมัดไว้ที่บริเวณเอว ขบวนจะแห่ไปตามถนนเส้นหลักภายในหมู่บ้านก่อนที่จะนำกองผ้าป่าและเครื่องกัณฑ์เทศน์ไปถวายที่วัดหนองสองเฒ่า ซึ่งจะจัดในวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 11 กันทุกปี ส่วนที่วัดหนองกะท้าวจะมีการจัดเทศน์มหาชาติในวันขึ้น 15 ค่ำเดือนเดียวกันนี้อีกครั้งหนึ่ง พวกเราชาวบ้านตำบลหนองกะท้าวจะสืบทอดศาสนาพุทธให้คงอยู่คู่กับคนไทยตลอดไป
////////