พิษณุโลก หน.อช.ภูหินร่องกล้า เตรียมกั้นแนวพื้นที่จุดพบรอยตีนไดโนเสาร์ เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
วันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายลำยอง ศรีเสวต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก กล่าวว่า จากที่ได้มีการพบคล้ายรอยเท้าไดโนเสาร์ ณ ลานหินบริเวณลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งทางนักธรณีวิทยา ได้เข้ามาสำรวจเก็บลักษณะร่องรอยเพื่อนำไปเปรียบเทียบ ว่าเป็นสายพันธุ์อะไร ถามผมขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์อะไร ต้องรอยืนยันจากนักธรณีวิทยา ตอนนี้พึ่งมาเก็บตัวอย่างและทำการสำรวจ ต้อง ไปเข้ากระบวนการทางห้องแลปตามกระบวนการอีกครั้ง ซึ่งรอยเท้าที่พบจะเป็นไดโนเสาร์พันธุ์อะไร เราไม่มีความรู้จะต้องรอเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีที่มาสำรวจไป แต่ ณ ตอนนี้ทางอุทยานฯพยายามกั้นบริเวณที่ ทางนักธรณีวิทยามาชี้จุดว่าตรงนี้ค่อนข้างที่จะมีความสมบูรณ์ของรอยเท้าแล้ว เป็นร่องรอยเส้นทางแต่ละรอยเส้นทางเดินของไดโนเสาร์ แนวที่ 1 แนวที่ 2 พยายามกั้นโซนนั้น ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปรบกวนมาก แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเข้าไปเดินเที่ยวชมได้ แต่ไม่ให้เข้าไปยุ่งกับจุดที่เป็นร่องรอยจริงๆ ซึ่งเป็นแนวทางที่เราพอทำได้ ณ ตอนนี้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่พอทราบข่าว ได้เริ่มเข้าไปดูบ้าง เพราะว่าเพิ่งเจอรอยเท้ามาเมื่อ 1-2 วันนี้เอง แต่หลักๆตอนนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวได้เคยมากางเต็นท์ที่บริเวณนั้นอยู่แล้ว พอทราบข่าวก็จะเดินลงไปดูเพราะห่างจากจุดกางเต็นท์ประมาณ 100-150 เมตรเท่านั้น ซึ่งจุดที่พบเป็นลานกางเต็นท์บริเวณลานสน ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และด้านล่างถัดจากที่ทำการอุทยานลงไปในส่วนที่ เคยเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์มาก่อน และถัดจากลานจอดเฮลิคอปเตอร์ไปอีกนิด ก็จะพบ รอยเท้าของไดโนเสาร์ ซึ่ง จากหลักๆที่มาสำรวจที่กรมทรัพยากรธรณียืนยัน และให้ความสนใจมีประมาณ 15 รอยเท้า ส่วนสายพันธุ์ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องไปดูในห้องแลปและห้องวิจัยอีกที โดยระบุเพียงว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์ประเภทกินพืช และป็นรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อ แต่สายพันธุ์อะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ยังไม่ทราบต้องรอเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญแจ้งยืนยันออกมา
ซึ่งจากเบื้องต้นนี้พบว่ามี 2 จำพวก ที่พอจำแนกได้ อาจเป็นพวกกินเนื้อและกินพวกกินพืช แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นต้องให้รอยืนยันอีกครั้งหนึ่งเพราะเราเพียงแค่ดูแลพื้นที่ไว้ ให้นักธรณีที่มาสำรวจมาได้ข้อมูลว่าอะไร อย่างไรไปบ้าง ในการจะดำเนินการต่ออย่างไรคงต้องมีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตรงอีกครั้ง ส่วนถ้าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์จริงๆเราก็ต้องมีการพัฒนา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมทรัพยากรธรณี เราต้องมีการประสานกันส่วนการพัฒนาเราจะต้องมีการพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในเรื่องของการศึกษาธรณีวิทยา แล้วก็โบราณคดีตลอดจนการพบรอยเท้าไดโนเสาร์ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องอยู่ที่ฝ่ายบริหารที่จะออกความเห็นมาอีกครั้งหนึ่ง อาจด้วยเป็นเรื่องของการจำกัดด้านงบประมาณ ระยะเวลาแต่ถ้าเป็นการยืนยันว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์จริงๆก็พร้อมที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ที่ผ่านมาเมื่อปี 2549 -2550 มีการยืนยันแล้ว ของภูหินร่องกล้าอยู่ฝั่ง จังหวัดเลย บริเวณลำห้วยหมันแดง มีการค้นพบประมาณ 10 รอยเท้าอยู่ในป่าลึก เพราะว่าตรงจุดนี้ไม่รับความสนใจมากเท่าไหร่ เพราะว่าอยู่ในป่าลึกและนักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ยากมาก สำหรับจุดลานกางเต้นท์ภูหินร่องกล้า ตรงนี้ถ้ามีการยืนยัน การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจะสามารถพัฒนาได้ง่าย และเข้าถึงได้ง่ายมากกว่า ซึ่งจุดลำห้วยหมันแดง ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้วว่า เป็นแหล่งโบราณคดี ของกรมทรัพยากรธรณี แต่ในเรื่องของการลงไปดู การเข้าถึงพื้นที่ยากลำบาก ทำให้ไม่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว