พิษณุโลก พ่อค้าขนมถ้วยส่งตามร้านอาหาร กระทบอากาศร้อนที่ผ่านมา ทำขนมถ้วยที่มีส่วนผสมของกะทิ บูดเสีย ง่าย ยอดขายตก จึงต้องหยุดขาย หันมาเอาดีขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างติดตั้งเตาและกระทะจอดรถ ขายเมนูกระเพราล้วนๆ เน้นใหม่ สด สะอาด เพียงชามละ 40 บาท ขายดิบขายดี ลูกค้าแวะอุดหนุนเพียบ
วันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวพาไปชิมเมนูง่ายๆ ที่หลายๆคนคุ้นเคยกับเมนูกระเพรา ล้วนๆ ฝีมือพ่อค้าขายขนมถ้วย ที่ผันตัวมาเอาดีกับเมนูผัดกะเพราะ ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จอดขายอยู่ภายในวัดราชบูรณะ ที่มีลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วประเทศหลั่งไหลมาลงยันต์ นะมะมนต์ กับพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ เน้นผัดใหม่ๆ ที่ละจาน กลิ่นฉุนไปทั่วลานวัด ลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย กลายเป็นเมนูง่ายๆ ที่สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว
นายวงศ์วศิษฏ์ เกตุตรง อายุ 42 ปี เจ้าของร้านกระเพราล้วนๆ ได้บอกว่า ปกติตนนั้นประกอบอาชีพค้าขาย ก่อนหน้านี้มีอาชีพหลักคือการทำขนมถ้วย ส่งขายตามร้านอาหารต่างๆ แต่ด้วยช่วงนั้นอากาศร้อนมาก ทำให้ขนมถ้วยซึ่งมีส่วนผสมของกะทิ บูด เสียง่าย จึงทำให้ต้องหยุดขาย
จนเมื่อต้นเดือนมีญาติเข้ามาลงยันต์ นะมะมนต์ ที่วัดราชบูรณะ ก็บอกตนว่าให้ลองไปขอขายอาหารดู ตนจึงเดินทางมากราบพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาส และขอลงยันต์นะมะมนต์ พร้อมขอเจ้าอาวาสมาขายอาหารในบริเวณวัด ซึ่งเจ้าอาวาสท่านก็มีเมตตาอนุญาต โดยไม่ต้องจ่ายเงินใดๆ ขอเพียงแค่ให้รักษาความสะอาดและจอดรถเป็นระเบียบ วันรุ่งขึ้นตนเลยนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของตน ติดตั้งอุปกรณ์ให้เรียบร้อย เน้นสะดวก ไม่เปลืองพื้นที่ มาจอดรถพ่วงขายเมนูง่ายได้บนรถเลย คือเมนูกระเพรา หมูสับ หมูกรอบ เครื่องในไก่ ข้าวผัดไข่ ข้าวไข่เจียว ราคาเพียง 40 บาท หากเพิ่มไข่ดาว ฟองละ 10 บาท
โดยจะเน้นวัตถุดิบอย่างดี รักษาความสะอาดถูกหลักอนามัย อย่างไข่ดาวตนใช้ไข่เบอร์ 1 ลูกใหญ่ เมนูกระเพราะจะเน้นผัดแห้งๆ รสจัดจ้าน ขายได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ผลตอบรับดีมากๆ แต่ตนจะนำมาขายต่อวันไม่เยอะ เอาแค่พอดีๆ เพราะช่วงบ่ายตนต้องมีหน้าที่ขับรถไปรับลูกกลับบ้าน 2 โรงเรียน โดยต่อวันตนจะนำวัตถุดิบมาอย่างละ 2 กก. ถ้าหมดไวก็กลับไว เฉลี่ยแล้ววันหนึ่งตนขายเมนูกระเพราได้วันละ 50 ชาม ก็เรียกได้ว่าอยู่ได้ และไม่ได้เร่ขายที่ไหน จะจอดขายที่วัดราชบูรณะแห่งนี้เพียงที่เดียว ตั้งแต่ 9.00 น.ของทุกๆวัน
////////////////////////