ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.4 ทำการสืบสวนสอบสวนคดีหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอินสตาร์แกรม
ตำรวจไซเบอร์กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายหลายคน ว่าถูกหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอินสตาร์แกรม จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลายรายกระจายกันอยู่ทั่วประเทศ เป็นจำนวนกว่า 70 ราย ที่ได้แจ้งความไว้แล้ว และยังมีที่ไม่ได้แจ้งความอีกหลายราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมคดีทั้งหมดมาทำการสืบสวนที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ จากการสืบสวนได้พบข้อมูลว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีอินสตาร์แกรม คือ นางสาวชนิตา อินทร์ยัง อายุ 28 ปี ชาว ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาล ออกหมายจับฯฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ”
และเมื่อเย็นวันที่ 23 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจในนำหมายจับศาลอาญา พร้อมกำลังเดินทางเข้าจับกุม นางสาวชนิตา อินทร์ยัง ที่จังหวัดพิษณุโลก เบื้องต้นนางสาวชนิตาฯ ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ใช้บัญชีอินสตาร์แกรมจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพจ มีผู้ติดตามประมาน 78,000 และมีผู้สนใจสินค้า ทำการเพิ่มเพื่อนมาทางบัญชีไลน์ออฟฟิศเชียลเพื่อทำการสอบถามหรือสั่งสินค้า ถึง 24,000 กว่าคน บางรายได้ทำการสั่งซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า
จากการสอบปากคำ นางสาวชนิตา อินทร์ยัง ให้การว่าตนได้เปิดเพจนี้มา 2 ปีแล้ว และได้ทำการหลอกลวงขายสินค้าให้กับผู้เสียหายหลายราย บางรายถ้าเป็นคนดัง หรือมีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดีย เมื่อได้รับการติดต่อหรือดูแล้ว น่าจะมีปัญหา จะโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหาย หากผู้เสียหายคนไหนไม่ติดตามผลคดีเพราะเห็นว่ามูลความเสียหายไม่เยอะ นางสาวชนิตาฯ จะใช้ช่องว่างนี้ในการหลอกลวงซึ่งทำมาแล้วหลายสิบครั้ง จุดนี้จึงเป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพ นำมาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชนจากคำว่า “มูลค่าความเสียเล็กน้อย”
ในอินสตาร์แกรม มีผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรมชื่อ “pantipa.a” โพสในบัญชีส่วนตัวว่า หากใครสั่งซื้อสินค้าจากเพจ ใครสั่งรองเท้าแล้วไม่ได้ของมารวมกันตรงนี้ ก่อนหน้าที่ นางสาวชนิตาฯ จะถูกจับกุมประมาณ 4 วัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ไปแจ้งในคอมเม้นโพสดังกล่าวว่า ถ้ามีผู้เสียหาย ถูกหลอกลวงจากเพจให้ติดต่อเข้าแจ้งความได้ที่ กองกำกับการ 4 กองบังคับตำรวจสอบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 กองบัญชาการตำรวจสิบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เจ้าหน้าที่ตำรวจขอขอบคุณเจ้าของบัญชีอินสตาแกรมชื่อ “pantipa.a” ที่เป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ทางโซเชียลมีเดีย
พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 กล่าวว่า คดีนี้ได้ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานพอสมควร ถึงเข้าปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้ และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นางสาวชนิตา อินทร์ยัง จะถูกนำตัวฝากขังที่ศาลอาญา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ฝากประชาสัมพันธ์ไว้ถึงพี่น้องประชาชน อย่าเห็นแก่ของถูก อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน ตามสโลแกนของตำรวจไซเบอร์
////////////////////////