พิษณุโลก ลุงเจ้าของโต๊ะสนุ๊กปืนดุยิงวัยรุ่นลูกเพื่อนดับดอดเข้ามอบตัวรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาอ้างทำไปเพราะป้องกันตัว
วันที่ 11 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทินภัทร ต่อยนึ่ง อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนลูกซองยาว ยิงนายจตุพรหรือแจ๊ค พรมศรี อายุ 39 ปี เสียชีวิตหน้าร้านสนุกเกอร์ เลขที่ 180 หมู่ 3 ตำบลบ้านป่า อำเภอเมืองพิษณุโลก ก่อนขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ดหลบหนีไป และได้ติดต่อขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปรับตัวมาที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เพื่อทำการสอบปากคำ
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 9 มีนาคม 2567 นายแจ๊ค(ผู้เสียชีวิต)ได้ขับรถ จักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านตนที่เปิดโต๊ะสนุ๊กเกอร์ โดยขณะที่มามีอาการมึนเมาส่งเสียงดัง และได้โทรตามนายกุ๊กให้ออกมาเล่นสนุ๊กฯ ด้วยกัน ตนจึงเปิดโต๊ะให้นายแจ๊ค และขึ้นไปนอนภายในห้องพักด้านบน จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.ได้ยินเสียงนายกุ๊กและนายแจ๊คฯทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง ตนจึงเข้ามาห้ามปราบ แล้วนายแจ๊คฯ ได้วิ่งไปหยิบมีดพับใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของตัวเองมาไล่แทงนายกุ๊ก ตนก็เข้าไปห้ามอีก ปรากฏว่านายแจ๊คเอามีดมาไล่แทงตนถึง 3 ครั้ง จนตนได้รับบาดเจ็บที่มือซ้าย ด้วยความโมโหตนจึงวิ่งไปหยิบปืนลูกซองยาวมา หวังเพียงแค่ขู่ให้นายแจ๊คหยุดเท่านั้น เพราะนายแจ๊คเองก็เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทตน แต่นายแจ๊คกลับไม่หยุด จะวิ่งมาแทงตนอีกพร้อมพูดว่าเดี๋ยวมึงเจอกูอีก ตนจึงลั่นไกออกไป จำนวน 5 นัด จากนั้นตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปขึ้นรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์สีดำ ทะเบียน บม-6658 พิษณุโลก ของตนหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุก่อน และโทรแจ้ง 191 ว่าทีคนถูกยิงที่บ้านตน และโยนโทรศัพท์ทิ้ง และขับรถไปนอนในป่าในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และได้ติดต่อโทรหาผู้ใหญ่สุภาพฯ ว่าตนต้องการเข้ามอบตัวจึงพาเข้ามอบตัวดังกล่าว
ด้านนางอมรรัตน์ พันธ์นุช อายุ 64 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนก็ไปพักอยู่บ้านน้องชาย ก็กังวลอยากให้สามีมอบตัว พอทราบวันนี้ว่าสามีติดต่อมอบตัวแล้วก็รู้สึกโล่งใจที่เข้ามอบตัว ผิดก็ว่ากันไปตามผิด วันเกิดเหตุตนได้ยินเสียงคนทะเลาะกันด้านล่างและมีเสียงปืน ตนเองนอนอยู่ด้านบนก็ตกใจตื่นและรีบวิ่งลงมาดูก็พบนายแจ๊คฯถูกยิงไปแล้ว ปกติแล้วผู้ตายก็มักจะเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ แต่ก็รู้จักกันดีเพราะเป็นลูกชายของเพื่อนสามี เวลาเมาก็มักจะมาที่ร้านเป็นประจำ ก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อีกอย่างทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเขาจะได้สบายใจว่าเราไม่ได้ปกป้องสามี
ส่วนทางด้านของครอบครัวผู้เสียชีวิตขณะนี้ทางครอบครัวได้รับศพผู้เสียชีวิตกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักและมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรกในวันนี้ ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจศพต่อไป
จากการสอบถามพ่อผู้เสียได้กล่าวว่า ตอนนี้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ คนทำก็รับโทษไป ตนเองก็ทำศพลูก ไม่โกรธเคืองเพื่อนนะ ก็ให้รับโทษตามกฎหมายไป นิสัยใจคอเพื่อนก็เป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิด รวมๆ แล้วก็หนักไปหน่อย ถึงกับฆ่ากัน แล้วก็ลักษณะเหมือน 1 นัดก็น่าจะพอแล้ว แต่นี้ก็ยิงซ้ำถึง 5 นัด
ด้าน แม่ผู้เสียชีวิตได้กล่าวว่าก็อยากให้ผู้ก่อเหตุ รับโทษกันไปให้ถึงที่สุด เพราะแม่เองก็สูญเสีย วันเกิดเหตุ ลูกชายเขาทำงานขับรถบริษัทนม มีลูกติด 3 คน คนเล็ก 4 ขวบ เป็นลูกสาวทั้งหมดวันนั้นเลิกงานมาเขาก็ไปส่งเพื่อน แล้วโทรมาขอเงินตน 500 แต่ตนไม่มีก็โอนไปให้ 200 บอกจะไปเล่นสนุ๊กเกอร์เพราะปกติเขาก็ไปเล่นที่นั่นประจำ ลูกชายเป็นคนรักลูก รักครอบครัว ดูแลพ่อแม่ได้ช่วยเหลือ พ่อแม่ได้ กับผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยรู้ว่ามีปัญหาอะไรมาก่อน ปกติลูกชายก็จะไปเล่นสนุ๊กเกอร์ที่นั่นทุกวันเสาร์ สามีตนกับมือปืนก็เป็นเพื่อนสนิทกัน พ่อผู้เสียชีวิตก็รักเพื่อนที่เป็นมือปืนมาก ก็ไม่น่าจะมายิงลูกตนขนาดนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาฝากขังเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
////////////////////