เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 ก.พ.2567 พ.ต.ท.เสน่ห์ พรมรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตสาเหตุจากถูกไฟคลอกในป่าสักท้ายบ้าน หมู่ 3 ต.หนองกะท้าว ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนภัทร เกิดสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.นครไทย แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชนครไทย เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครไทย พบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายอยู่ใกล้กับกอไผ่ที่มีร่องรอยถูกไฟไหม้ สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินกางเกงขายาวสีดำมีบาดแผลถูกไฟไหม้ตามร่างกายหลายแห่ง โดยมีญาติและเจ้าหน้าที่ของ อบต.หนองกะท้าว ที่มาช่วยกันดับไฟอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนหนึ่ง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายนะ บางศรี อายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ที่ 15 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายนะออกจากบ้านมากวาดใบสักเป็นกองแล้วจุดไฟเผาในไร่ของตนเอง แล้วเกิดมีกระแสลมแรงทำให้ไฟลุกลามไปยังป่าสักและต้นไผ่ในไร่ของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน จึงคาดว่านายนะตัดสินใจปีนข้ามรั้วลวดหนามเข้ามาเพื่อดับไฟ แต่ถูกควันไฟลมหรือเกิดอาการเป็นลมหมดสติทำให้ล้มลงกับพื้นถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชนครไทย และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลประเพณี
ด้าน น.ส.นพมาศ คุ้มอ่อน อายุ 48 ปี เลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกะท้าว เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 15.00 น.ได้รับแจ้งว่ามีไฟไหม้ลุกลามเข้ามาในไร่สักพื้นที่บ้านหมู่ 3 จึงให้รถน้ำของ อบต.หนองกะท้าว มาช่วยดับไฟ มาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าสารวัตรกำนันตำบลหนองกะท้าวกับพวกช่วยกันดับไฟอยู่ เจ้าหน้าที่ของ อบต.เมื่อมาถึงก็ช่วยกันระดมกำลังฉีดน้ำดับไฟจนสงบ พอเดินสำรวจพื้นที่ไฟไหม้บริเวณกอไผ่ก็พบร่างของนายนะถูกไฟคลอกเสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จึงอยากขอความร่วมมือชาวบ้านหากจะเผาใบไม้หรือหญ้าก็ขอให้ระมัดระวังเผาตามช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย