วัยรุ่นอ.นครไทยรุมกระทืบเด็กวัย 15 สลบ ผ่านไป 2 เดือนคดีไม่คืบ

พิษณุโลก เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ร้องสื่อเหตุถูกกลุ่มวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 20 คน รุมทำร้ายระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังไปงานประจำปี แจ้งความแล้วตำรวจรู้ตัวผู้กระทำผิดแต่คดีกลับไม่คืบ ทั้งที่มีคลิปเหตุการณ์ชัดเจน หวั่นเจ็บตัวฟรีไม่ได้รับความยุติธรรม ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเกรงจะถูกวัยรุ่นแก๊งดังกล่าวดักทำร้ายอีก

 

วันที่ 5 ก.พ. 2567 นายโจ้ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หนุ่มวัยรุ่นชาว ต.ป่าแดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก นำคลิปวีดีโอเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเวลาประมาณเที่ยงคืนวันที่ 22 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก แล้ว แต่คดีไม่คืบหน้าแต่อย่างใด

โดย นายโจ้ (นามสมมุติ) เล่าว่า ขณะที่ตนกับเพื่อนชายหญิงรวม 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากเที่ยวงานประเพณีปักธงชัยที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ผ่านปั๊มน้ำมันบางจาก บ้านหนองน้ำสร้าง ต.นครไทย ได้พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่ริมถนนจำนวนมาก ระหว่างนั้นได้ยินเสียงตะโกนให้ของลับมา พวกตนเห็นท่าไม่ดีจึงเร่งเครื่องพยายามจะหลบหนี แต่วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวกลับพากันขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมาทัน จากนั้นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้ทำร้ายตนด้วยการใช้ไม้ฟาดเข้าที่ท้ายทอยกับลำตัว โดยมีคนอื่นๆ อีกหลายคนเข้ามารุมล้อมกระทืบทุบตีจนตนล้มลงตกไปในร่องน้ำข้างถนน แต่ก็ยังถูกลากขึ้นมารุมทำร้ายต่ออีกจนสลบคาที่

 

นายโจ้ กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกตัวอีกทีก็มี จนท.กู้ภัยและเพื่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทยแล้ว และทราบว่าเพื่อนอีก 3 คน ที่มาด้วยกันไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด หลังพบแพทย์ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานอบสวน สภ.นครไทย พร้อมกับมอบคลิปวีดีโอเหตุการณ์ 2 คลิป ที่เพื่อนถ่ายไว้เป็นหลักฐานด้วย ส่วนสาเหตุการถูกทำร้ายนั้นตนไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางและไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน

ทั้งนี้ ผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ นายโจ้ ได้เข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับชุดสืบสวน สภ.นครไทย อีกครั้ง โดยได้อธิบายรายละเอียดเหตุการณ์ในคลิปวีดีโอ ซึ่งเห็นหน้าตาผู้ก่อเหตุอย่างชัดเจน จนมี จนท.ตำรวจนายหนึ่งพูดขึ้นว่า คนนี้มันชื่อ “ไอ้ปั้น” เป็นคนในพื้นที่ ทำให้ นายโจ้ มั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้

 

“รู้สึกกังวลใจมากว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ เพราะตนไม่ได้รับการติดต่อจาก จนท.ตำรวจอีกเลย ที่สำคัญคือผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ถูกจับกุม ทั้งๆ ที่มีพยานหลักฐานชัดเจนขนาดนี้” นายโจ้ กล่าวในที่สุด จึงต้องเดินทางมาขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนช่วยตีแผ่ความจริง และให้ช่วยเหลือทวงความเป็นธรรมให้ตนเองด้วย.

//////////////////////////

แสดงความคิดเห็น