การแข่งขันว่ายน้ำ S S Phitsanulok Swimmingแชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 13จัดโดย ชมรมว่ายน้ำ S S Phitsanulok Swimming Clup ณ สระว่ายน้ำ อบจ.พิษณุโลก (สนามกีฬกลาง) จังหวัด พิษณุโลกระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาถือเป็น สนามแข่งใหญ่ของเยาวชนตั้งแต่ 6ขวบ จนถึง 14 ปี ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกให้ความสำคัญ โดยนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันว่ายน้ำ อบจ.พิษณุโลก แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 13 ปี พ.ศ.2566 ระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2566 ณ สระว่ายน้ำ สนามกีฬาจังหวัดพิษณุโลก โดยมี ปรีชา จันทร์อร่าม ประธานชมรมว่ายน้ำ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ในนามคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อให้นักกีฬามีการพัฒนาร่างกายให้แข็งแรง เสริมสร้างทักษะกีฬาว่ายน้ำและเสริมสร้างประสบการณ์ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้นักกีฬามีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และเชื่อมความสามัคคีระหว่างชมรม สโมสรและโรงเรียนสอนว่ายน้ำต่างๆ อีกทั้งเพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลจากยาเสพติด โดยในการแข่งขันครั้งนี้มีนักกีฬาจากทีมต่างๆ เข้าร่วมแข่งขัน 47 ทีม มีนักว่ายน้ำกว่า 580 คนเข้าชิงชัย
นายปรีชา จันทร์อร่าม ชมรมว่ายน้ำ ประธานชมรม S S Phitsanulok Swimming Clup เปิดเผยว่า การแข่งขันว่ายน้ำเยาวชน จังหวัดพิษณุโลกจัดมาเป็นครั้งที่ 13 แล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่ามีสโมสรที่สนใจสมัครเข้าร่วมมากที่สุด ในใบสมัครมีเกือบ 700 คนและอย่างที่ทราบมีสโมสรว่ายน้ำสนใจเข้าร่วมเกือบ 50 สโมสร ซึ่งผลการแข่งขันคะแนนถ้วยรวม ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของทัพนักกีฬาเป็นอย่างยิ่งซึ่งอันดับหนึ่งเป็นของสโมสรว่ายน้ำโรงเรียนการกีฬาสุพรรณบุรี ตามมาด้วย สโมสรว่ายน้ำ กาวิละ เชียงใหม่ เป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 เป็นของสโมสร ชมรมว่ายน้ำโรงเรียนโรจนวิทย์ มาลาเบี่ยง ซึ่งเป็นทีมในจังหวัดพิษณุโลกชิงขึ้นมาเป็นอันดับ 3 อย่างไม่น่าเชื่อ ในภาพรวมของการแข่งขันถือว่าเป็นไปอย่างเรียบร้อยเพราะการจัดการแข่งขันที่มีจำนวนนักกีฬามากขนาด 600 คน รวมสต๊าฟโค้ช ผู้ปกครองก็น่าจะปาเข้าไปเกือบ 1,500 คน เล่นเอาสระว่ายน้ำแทบแตก แต่ก็ถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี ซึ่งทำให้คณะจัดการแข่งขันมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น ที่น่าเสียดายอีกประการคือสระเราสั้นไปหน่อย คือ 25 เมตร ในพิษณุโลกมีเพียงมหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น ที่มีสระขนาด 50 เมตร อยู่แต่ด้วยงบประมาณอันจำกัดในการจัดการแข่งขัน หากจะจัดที่มหาวิทยาลัยนเรศวรต้องมีค่าเช่าสระว่าน้ำของทางมหาวิทยาลัยซึ่งทำให้งบที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาต้องขอบคุณทาง อบจ.พิษณุโลกที่สนับสนุนให้ใช้สระว่ายน้ำ และช่วยเหลือส่วนต่าง ๆ ทำให้การจัดงานราบรื่นมาทุกปี
ด้าน นายอนนท์ วรรณทอง ปธ.ชมรมว่ายน้ำรร.โรจน์วิทย์ มาลาเบี่ยง เปิดเผยว่า ต้องยกความดีให้กับ โค้ช นรินทร์ กุลกิ่ง ทีมผู้ฝึกสอนประจำสระว่ายน้ำของโรงเรียน ที่ให้การดูแลฝึกสอนนักเรียนที่ว่ายน้ำในชมรม ด้วยความมุ่งมั่น ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จากนักเรียนหัดว่ายน้ำ สู่นักกีฬาว่ายน้ำกลายจนเป็นชมรม เราเป็นชมรมเล็ก ๆ ถ้าเทียบกับชมอื่น ๆ แต่โชคดีที่มีสระของทางโรงเรียนสนับสนุนให้ทีมได้ซ้อมกันทุกวัน ทางผู้ปกครองนักกีฬาทุกคน ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้น เพราะต้องอดทนต่อการพานักกีฬาตัวน้อยฝึกซ้อมตลอดสัปดาห์ อย่างต่อเนื่อง หลายคนที่ซ้อมตั้งแต่เด็ก ๆ ไล่ขึ้นไปเป็นปี ๆ จนทำให้ความแข็งแกร่งของนักกีฬาดีขึ้นเรื่อย ๆ และหลายปีที่ผ่านมา ชมรมแห่งนี้ก็ได้สร้างผลงานดีขึ้นโดยปีที่แล้วผลคะแนนถ้วยรวมเราได้ที่ 6 เท่านั้นแต่ปีนี้สามารถคว้าที่ 3 จากการแข่งขันได้ก็น่าภาคภูมิใจ แทนนักกีฬา ผู้ปกครองอีกทั้งโรงเรียนโรจนวิทย์มาลาเบี่ยงที่สนับสนุน เพราะกีฬาว่ายน้ำจังหวัดพิษณุโลก กำลังถูกพัฒนามากขึ้นดูจากความสนใจในการลงแข่งขัน ของทีมในจังหวัดและต่างจังหวัดที่ให้ความสำคัญมาร่วมแข่งขันจำนวนมาก สำหรับซุปเปอร์สตาร์ของทีม คือ น้องสิริณัฐฎ์ กวีวัฒนา รุ่นเยาวชนหญิง อายุ 14 ปี คว้าเหรียญทองจากการแข่งขัน 6 เหรียญจาก ท่า ฟรีสไตน์ ท่าผีเสื้อ และกรรเชียง 50 เมตร 3 เหรียญ จากท่ากรรเชียง ท่าฟรีสไตน์ และผีเสื้อ 25เมตร อีก 3 เหรียญ ส่วนเหรียญเงินอีก 2 เหรียญได้จาก ท่ากบ 25 และกบ 50 ซึ่งถือมีความภาคภูมิใจการทำผลงานให้ทีม ตลอด 5 ปีแห่งการฝึกฝนและซ้อมอย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็เชื่อเหลือเกินว่า อาจมีชื่อของ น้องวิว สิริณัฐฎ์ กวีวัฒนา ตัวแทนทีมชาติไทยชาวพิษณุโลกขึ้นมาประดับวงการก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ก็ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่อยากเห็นวงการว่ายน้ำพิษณุโลกพัฒนา นายอนนท์ วรรณทอง กล่าวในที่สุด