พิษณุโลก “ขนมเทียนแก้ว” อาชีพสร้างรายได้กลุ่มผู้สูงอายุ หมู่ 9 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ขายผ่านออนไลน์ รับผลิตตามออร์เดอร์ ไม่มีหน้าร้าน จำหน่ายกิโลกรัมละ 200 บาท รับจัดเบรกชุดละ 10 บาท
ขนมเทียนแก้ว กลุ่มอาชีพขนมไทยและอาหารพื้นถิ่น ของหมู่ 9 ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จัดตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มแม่บ้าน ผู้ว่างงาน และผู้สูงอายุ ที่อยู่บ้านเฉยๆ แล้วเกิดความเหงา ให้มาร่วมกลุ่มทำขนม ได้พูดคุย หยอกล้อ หัวเราะ มีความสุขขณะทำงาน ทำให้สุขภาพดี และมีเงินรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าคนละ 1,000 บาท นอกเหนือจากเงินผู้สูงอายุที่ได้รับทุกเดือน
นางบุญญาภา เอกวิลัย อายุ 49 ปี ประธานกลุ่มขนมเทียนแก้ว กล่าวว่า การเลือกขนมเทียนแก้ว มาเป็นขนมประจำหมู่บ้าน หมู่ 9 ตำบลหัวรอ เนื่องจากเมื่อปี 2565 ทางอำเภอเมืองพิษณุโลก มีงบประมาณมาทำอาชีพเสริมให้กับประชาชนตำบลหัวรอ จึงจัดให้เจ้าหน้าที่พัฒนาการมาอบรม สอนวิชาชีพให้ความรู้กับชาวบ้านเรื่องขนมไทยและอาหารพื้นถิ่น และขนมเทียนแก้ว จริงๆ มีหลายหมู่บ้านทำเหมือนกัน แต่สำหรับ หมู่ 9 ต.หัวรอ มีป้าประคอง อ่อนอุ่น ผู้สูงอายุ ที่มีความรู้และเคยประกอบอาชีพทำขนมเทียน เมื่อได้รับการสนับสนุนจากทางอำเภอเมือง กำนันปิ่นเพชร พูลสวัสดิ์ กำนันตำบลหัวรอ ให้ตั้งเป็นกลุ่มขนมเทียนแก้ว ขึ้นมา ก็ทำให้กลุ่มขนมเทียนแก้วมีความเข้มแข็ง มีช่องทางตลาดในการจำหน่ายกว้างมากขึ้น
สำหรับ ขนมเทียนแก้ว เป็นขนมไทยที่มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก แต่ใช้ความละเอียดในทุกขั้นตอนการทำ หากทำไม่ดีตัวแป้งจะเละเหลว หรือ แข็งกระด้าง ซึ่งเคล็ดลับสำคัญอยู่ที่ใช้เตาถ่านในการทำทุกขั้นตอน สาเหตุที่ใช้เตาถ่าน เพราะว่า จะทำให้ขนมหอมกรุ่น ใช้ถ่านไม่เหมือนแก๊สเพราะ ไฟเตาถ่านทำให้ความร้อนค่อยๆเกิดตามธรรมชาติมากกว่ากันนี่คือเคล็ดลับ ส่วนขั้นตอนการทำ เริ่มจากการเตรียมดอกอันชัน ใบเตย น้ำ แป้งมัน เกลือ น้ำตาล จากนั้นนำแป้งมัน 1 ถุง (แป้ง 1 ถุงครึ่ง ก.ก.ปั้นได้ 120-130 ลูก) เทใส่หม้อ ตวงน้ำใบเตยหรือน้ำอัญชันคั้นเทใส่ลงไป 2 ถ้วยตวง ละลายแป้งกับน้ำใบเตยจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำตั้งไฟเตาถ่านระดับไฟแรงปานกลาง คอยใช้พายคนไม่ให้แป้งค่อยสุกใช้เวลาราว 30 นาที พอแป้งสุกใสได้ที่ก็ยกลงมา นำถาดเทน้ำมันใส่ไม่ให้แป้งติด ปั้นแป้งขนาดตามต้องการ ขณะที่แป้งยังร้อนอยู่ นำไส้ที่ผัดเตรียมไว้มาปั้นให้กลม นำไปห่อด้วยแป้ง ใส่ในกรวยใบตองพับจีบเป็นตุ้มแหลม วางเรียงในซึ้ง
นางบุญญาภา กล่าวอีกว่า สำหรับไส้ขนมเทียนแก้ว ประกอบด้วย กระเทียม พริกไทย ถั่วเหลืองที่แช่ค้างคืนนำไปต้มจนสุก จากนั้นนำไปผัดรวมกันปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ้วขาว น้ำตาล ผัดจนเนื้อเนียนเป็นอันใช้ได้ ซึ่งไส้ขนมเทียนแก้ว จะได้ใส่หอมแดงกับเนื้อหมูสับเหมือน ขนมเทียนทั่วไปที่ห่อด้วยแป้งข้าวเหนียวแต่อย่างใด เมื่อได้ไส้ขนมนำมาปั้นตามต้องการเตรียมรอแป้งมาห่อหุ้ม เมื่อห่อขนมเรียบร้อยวางเรียงในซึ้ง นำไปนึ่งนาน 15 นาที ก็ได้ขนมเทียนแก้วแสนอร่อยแล้ว โดยขนมเทียนแก้ว ขายลูกละ 2 บาท หรือ กิโลกรัมละ 200 บาท โดยมีสติ๊กเกอร์ขนมเทียนแก้วหมู่ 9 ตำบลหัวรอ ติดอยู่ทุกกล่อง พร้อมกันนี้ ยังรับจัดเบรคชุดละ 10 บาท ซึ่งตำบลหัวรอ ได้สืบทอดภูมิปัญญา อาหารพื้นถิ่น และ ขนมไทยพื้นบ้าน ให้คงอยู่คู่ชุมชน ท้องถิ่นตำบลหัวรอ ขนมเทียนแก้ว เนื้อดอกอัญชัน และ เนื้อใบเตย โดยใช้ ดอกอัญชัน และใบเตยหอม จากแปลงปลูกปลอดสารพิษ ในศูนย์การเรียนรู้สู่วิถีพอเพียง ตำบลหัวรอ เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตด้วย
ด้าน นายกันตภณ เอกวิไล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ขนมเทียนแก้วของเรา ทางท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ชิม ลิ้มรส แล้วติดใจในรสชาติและสั่งขนมเทียนแก้ว มาเรื่อยๆ เคล็ดลับการห่อของเราอยู่ที่ใบตอง ต้องใช้ใบตองกล้วยน้ำว้า แบบใบกลาง กล้วยชนิดอื่นที่หนาห่อไม่สวย ใบตองนำตากแดดผึ่งลมไว้เพื่อให้ใบตองเหี่่ยวแล้วตัดตามขนาดที่ต้องการแล้วนำมาห่อจะไม่แตก ห่อสวยงาม แต่ถ้าใบตองหนาใช้ไม่ได้จะทำให้การห่อแตก ไม่สวยงาม สำหรับต้นตำรับของเรามาจากกรุงเทพฯ ซึ่งคนพื้นถิ่นไปเป็นสะใภ้ของคนกรุงเทพฯ แล้วเป็นเจ้าของกิจการขนมเทียน ก็เลยนำสูตรมาเผยแพร่ให้กับคนที่ต้องการมีอาชีพเสริม โดยถ่ายทอดให้กับประชาชนในพื้นที่ แต่ไม่มีการต่อยอด โดยคนที่ทำส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและก็ไม่มีตลาดที่แน่นอนทำให้ไม่มีการทำต่อเนื่อง เพราะเราเห็นเวลาว่างๆ คนแก่ไม่มีอะไรทำ ก็เลยจัดตั้งเป็นกลุ่มโดยมีแม่บ้านที่ไปเรียนรู้มาและเป็นต้นตำรับก็มาสอนกลุ่มแม่บ้าน มีกำนันตำบลหัวรอมาสนับสนุน เริ่มมีตลาดแน่นอน โดยเวลานี้ขนมเทียนหมู่ที่ 9 ตำบลหัวรอ เข้าสู่ตลาดประชารัฐเรียบร้อยแล้ว มีการทำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตลาดประชารัฐได้นำไปชิมและตรวจวัดระดับน้ำตาล ความหวานไม่เกินกำหนด ทางโรงพยาบาลพุทธชินราช จะสั่งเป็นล็อตๆภายในเดือนกันยายน- พฤศจิกายน เป็นเวลา 3 เดือน
สนใจสามารถสั่งซื้อล่วงหน้า 1 วัน ทางกลุ่มทำส่งตามออเดอร์เท่านั้น เนื่องจากขนมไม่มีสารกันบูดจะอยู่ได้เพียง 2 วัน หากนำเข้าตู้เย็นอยู่ได้ 1 เดือน นำออกจากตู้เย็น ให้คลายความเย็นก่อนมาอุ่นได้รสชาติเหมือนเดิม เพจเฟสบุ๊ค บุญญาภา เอกวิลัย หรือ โทรสั่งซื้อได้ที่ เบอร์ 0952353287
///////