วันที่ 14 กรกฎาคม 66 นายไสว เจริญศรี นายอำเภอเนินมะปราง นางปริษา ปานพรหม สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก รศ.ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล พร้อมผู้นำท้องที่และท้องถิ่นและชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง ร่วมงาน”เตรียมความพร้อมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในการส่งเสริม Soft Power ด้วยทุนวัฒนธรรมภายใต้โครงการ 1 เมืองท่องเที่ยว 1 ประสบการณ์ท้องถิ่น” ระหว่างวันที่ 13-14 ก.ค.66 ที่สวนอินทผลัมพิษณุโลก ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เพื่อเป็นการสร้างจุดขายดึงดูดด้านการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวช่วยเหลือคนชุมชน
รศ.ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ม.นเรศวร ได้พาชาวบ้านมาอบรมความรู้ เพื่อที่จะบอกว่า ชุมชน ต้องจักตัวเองว่ามีอะไรโดดเด่น ชูความเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวกับหมู่บ้านข้างเคียง ดึงอัตลักษณ์เด่นๆของคนและสินค้าในพื้นที่ อาทิเช่น สวนมะม่วง, สวนอินทผลัม ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น ทำซอสมะม่วง, กลั่นไวน์-กระแช่มะม่วง, ไอติมมะม่วงฯลฯ พร้อมกับเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวชุมชน อาทิ ผารังหมี ภูเขาหินปูน ชื่อดังของคนเนินมะปรางเข้าด้วยกัน ซึ่งสวนอินทผาลัมรายใหญ่คือ “สวนอินทผลัมพิษณุโลก”วันนี้ ได้ชูเมนูเด็ด “ส้มตำอินทผลัมปลาร้า 8 ปี”ถือว่าเป็นสิ่งดี สร้างจุดขายโดดเด่นง่ายๆ
นางปริษา ปานพรหม หัวหน้าสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในส่วนการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเรามีนโยบายในการส่งเสริมทางด้านวัฒนธรรมของชุมชน วัฒนธรรมท้องถิ่นมาเชื่อมโยงร่วมกัน ซึ่งเราเห็นว่า อำเภอเนินมะปราง เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีที่พักอาศัย สินค้าชุมชน จึงจัดกิจกรรม ท่องเที่ยวประสบการณ์ท้องถิ่น เพื่อเชื่อมโยงร้อยเรียงเส้นทาง จึงนำชาวบ้านมาอบรมการเป็นเจ้าบ้านที่ดี รู้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นอย่างดี สามารถแนะนำได้ โดยอ.เนินมะปราง มีจุดเด่นเรื่องธรรมชาติและผลไม้ ทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้ และอินทผลัม คือจุดขาย สามารถทำอาหารทำเมนูอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะเส้นทางการท่องเที่ยวทางด้านการเกษตร ซึ่งอาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นผู้ต่อยอด ให้ความรู้เสริมและช่วยชาวบ้าน มีการพัฒนาสินค้า มีการทำ Content ผ่านทาง tiktok ต่อยอดด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างชื่อเสียงในโซเชียล ให้ อ.เนินมะปราง เป็นที่รู้จักมากขึ้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น
นางสาวนัทธ์ศศิ ดวงปัญญา เจ้าของ “สวนอินทผลัมพิษณุโลก” เลขที่ 156 หมู่ที่ 5 บ้านเขาดิน ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง เปิดเผยว่า จากที่ทุ่มเงินลงทุนหลักล้านบาทพัฒนาที่ดิน 108 ไร่เมื่อ 5 ปีก่อน ลงทุนปลูกต้นอินทผลัมตั้งแต่ต้นละ 2,500 บาทคัดสายพันธุ์เนื้อเยื่อจำนวน600 ต้น ล่าสุดให้ผลผลิตแล้ว 100 ต้น จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็กอิน บ้านพักทรงไทย 2 หลังคู่ กระแสอินทผลัมปี 66 ยังไปได้เรื่อยๆ อินทผลัมเราปลูกบนดินลูกรัง ถือเป็นอัตลักษณ์อินทผลัมบ้านเขาดินมีรสชาติเข้มข้น “เปลือกบาง หวานฉ่ำ เนื้อแน่น กรอบหอมละมุนลิ้น” ปลูกแบบอินทรีย์ ปีนี้ผลผลิตกำลังออกสู่ท้องตลาดเร็วๆนี้ เตรียมเมนูเด็ดไว้ให้นักท่องเที่ยว ลองลิ้มชิมผลอินทผลัมจากสวนสดๆ เมนูส้มตำอินทผลัม-น้ำปลาร้า 8 ปี โดยนำผลอินทผลัม ทั้งสายพันธุ์เหลืองบาฮี และแดงโคไนซี ตำกับมะละกอ ส้มโอ และเครื่องส้มตำปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าปลาบึก 8 ปี ซึ่งเป็นเคล็ดลับพิเศษของที่สวนจัดเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่ง จะเปิดเทศกาลอย่างเป็นทางการวันที่ 27 กรกฏาคม 66 นี้ สามารรถเลือกซื้อ อินทผลัมเป็นช่อๆ ยกจั่น 6-7 กิโลกรัม ทั้งสีเหลือง(บาฮี) กิโลกรัมละ 400 บาท และสีแดง (โคไนซีสี) 600 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดและอาจารย์ ม.นเรศวรเข้าสนับสนุนการแปรรูป วันนี้ จึงมีน้ำสกัดอินทผลัมเพื่อสุขภาพและทำเมนูข้าวผัดจากผลอินทผลัม ขณะที่เมนูเด็ดยอดฮิต คือ ส้มตำอินทผลัมน้ำปลาร้า-ปลาบึก 8 ปี ยังคงเป็นเมนูเด็ดที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่แวะเยือนที่นี่ โดยนักท่องเที่ยวมาเที่ยวฟรี แชะฟรี ชิมฟรี ปกตินักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดทั้งปี แต่ที่นิยมมาเที่ยวมากที่สุดช่วงอินทผลัมออกผลผลิต ซึ่งสรรพคุณอินทผลัม มีสารทานินช่วยลดการอักเสบ (ร่างกาย), ลดความดัน เบาหวาน ลดไขมันอุดตันในเส้นเลือด มีน้ำตาลเชิงเดี่ยว กินแล้วให้พลังงานทันที ถือเป็นผลไม้มหัศจรรย์บำรุงร่างกาย ให้สุขภาพดี
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจโดยฌฉพาะกลุ่มวิสหกิจชุมชนบ้านผารังหมี ที่ชาวบ้านรวมตัวกัน ทำเกษตรอินทรีย์ ทอผ้าพื้นเมือง ผ้าขาวม้า ทอเสื่อ จำหน่วยให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่ท่องเที่ยวเป็นของฝากของที่ระลึก ซึ่งราคาไม่แพงเป็นการสร้างรายได้ช่วยชุมชน
และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่วัดผารังหมี คือมีหลวงพ่อเพชรมณีประดิษฐ์สถานอยู่ในถ้ำวัดผารังหมี สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ 2517 ลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์อยู่ในพระอริยบทนอนตะแคงข้าง แต่เนื่องจากลักษณะของถ้ำมีความสูงจำกัด ทำให้แขนของพระพุทธรูปไม่ตั้ง เท้าพื้นแต่วางราบกับพื้นแทนทำให้มีลักษณะแตกต่างจากพระพุทธรูปปางไสยาสน์โดยทั่วไปตามตำนานเล่าขานว่าเคยมีพระธุดงค์มาจำศีลภายในถ้ำแห่งนี้ แต่เมื่อสร้างองค์หลวงพ่อเพชรมณีแล้วเสร็จ ก็ไม่ปรากฏพระธุดงค์รูปนั้นอีกเลย หลวงพ่อเพชรมณีจึงเป็นเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่ชุมชนบ้านผาหลังหมี มาอย่างยาวนานนักท่องเที่ยวสามารถแวะมากราบสักการะหลวงพ่อเพชรมณีเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ตลอดทั้งปี
//////////////