เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.พีรพันธ์ กันหมุด พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุของ สภ.วัดโบสถ์ ว่ามีเหตุยิงกันตาย 2 ศพ ที่บ้านหนองกระบาก จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลวัดโบสถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก โดยมี พ.ต.ท.อำนาจ เมฆสิน รอง ผกก.ป.รรท.ผกก. พ.ต.ท.โกศล สวัสดิเทพ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.นฤนาจ บุญจวง รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ พร้อมชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย นอนอยู่ภายในบ้านบริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน ทราบชื่อนายแวง จันทะคุณ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 5 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ถูกยิงด้วยอาวุธปืน กระสุนขนาด 5.56 มม. ที่บริเวณหน้าอก ทะลุหลัง จำนวน 1 นัด และนายมนู จันทะคุณ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ที่ 6 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ถูกยิงด้วยอาวุธปืน กระสุนขนาด 5.56 มม. เข้าที่บริเวณริมฝีปากข้างซ้าย จำนวน 1 นัด ตรวจสอบปลอกกระสุนขนาด 5.56 มม. มีปลอกกระสุน จำนวน 3 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายบาดิน พาพิมพ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ที่ 5 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสายทิพย์ ชูพงษ์ ภรรยาของนายแวง ผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบาดิน คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสี ยี่ห้อมาพร้อมนายมนู หลังจากมาถึงบ้าน นายบาดิน ได้ให้นายแวง สามีตนกับนายมนู ซึ่งทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งคู่นั่งลงกับพื้นภายในบ้านตรงจุดที่เกิดเหตุ ก่อนจะพูดคุยและมีการโต้เถียงกัน ซึ่งทางนายบาดินกล่าวหาว่านายแวง สามีตน มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับภรรยาของนายบาดิน หลังมีการโต้เถียงกันอยู่ไม่นาน นายบาดินได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่ผู้ตายทั้งสองคน ก่อนจะได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที ทางเจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าไปตรวจสอบบ้านของนายบาดิน ไม่พบตัวแต่อย่างใด
โดยก่อนเกิดเหตุสามีตน กินข้าวเสร็จอยู่นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ส่วนตนเองอยู่ในห้องโถงมองเห็นนายบาดิน ขี่รถมอเตอร์ไซด์มาที่บ้าน มีลักษณะต้องสงสัย เพราะดับเครื่องปล่อยให้รถไหลมา ตนรู้สึกไม่ดี เพราะเคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อนายบาดินมาถึงบอกว่าใจเย็นๆ แฟนได้บอกว่าใจเย็นๆ นายบาดินพูดว่ากูจะกระทืบมึง เพราะไปยิงปืนใส่ตนทำไม นายแวงบอกว่ากูไม่มีปืน จะยิงปืนใส่บ้านมึงทำไม ตนจึงบอกนายบาดินว่าสามีไม่มีปืนจริงๆ แต่นายบาดินบอกให้ตนหลบไป ไม่อย่างนั้นจะยิงตน จากนั้นได้หันปืนไปหาทั้ง 2 คน บอกให้นั่งตรงกำแพง ตนได้พูดตลอดว่ามีอะไรค่อยๆคุยกัน ที่พูดมากล่าวว่านายแวงไปมีอะไรกับเมียนายบาดินไม่เป็นความจริงไม่มีมูลเลย ทางนายแวงได้บอดตนให้ถอยไป ถึงยังไงก็เป็นเพื่อนกันคงพูดกันรู้เรื่อง พอพูดจบนายบดีก็ยิงนายแวงและนายมนูอีกคน ตนได้วิ่งไปกอดสามีเอาไว้ นายบาดินได้จ่ออีก 4 นัด แต่กระสุนนัดที่ 3 ด้าน ส่วนนัดที่ 4 ลูกของตนอยู่ในบ้านเห็นจะยิงตน แต่กระสุนไม่โดน ก่อนนายบาดินจะขี่รถหลบหนีไปทันที
ด้านพ่อผู้ต้องหา เปิดเผยว่า อยากให้ลูกชายมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ จากใจพ่อพูดจริงๆไม่ได้เข้าข้างลูกผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนเสพยานั้นรู้ว่าเสพ แต่ไม่ทำให้พ่อเห็น ตอนพ่อยังมีชีวิตอยู่บอกห้ามเลยพ่อขอร้อง สำหรับผู้ตายกับลูกชายเป็นเพื่อนรักอยู่กันมาตลอด ส่วนจะไปขัดใจเรื่องอะไรไม่รู้ สำหรับเรื่องชู้สาวตนไม่สันนิษฐาน เพราะไม่รู้ ส่วนจะไปขัดเรื่องยาเสพติดคงไม่มี ตนต้องขอโทษ จากใจพ่อแม่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่มันเกิดมาแล้วต้องให้เขารับผิดไป ตอนนี้อยากให้มอบตัว แต่ตอนนี้อยากให้ติดต่อได้ก่อน ไม่สามารถติดต่อได้ จึงพูดอะไรไม่ได้ เพราะไม่รู้ไปอยู่ไหน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบาดิน ได้ระแวงนายแวง ผู้เสียชีวิต ว่ามาจีบเมียของนายบาดิน จึงได้บังคับนายมนู ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายแวง ได้ให้พามาที่บ้านของนายแวง ก่อนลงมือก่อเหตุได้บังคับให้ทั้ง 2 คนนั่งคุกเข่าเรียงกัน แล้วใช้อาวุธปืนยิงทั้ง 2 เสียชีวิต แล้วหลบหนีไป คาดว่าสาเหตุมาจาก 2 ประเด็น คือ ชู้สาว กับ ปัญหาขัดแย้งส่วนตัว
ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลวัดโบสถ์ ชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด และได้ส่งศพผู้ตายทั้งสองคนไปให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราชผ่าพิสูจน์ เพื่อประกอบสำนวน ส่วนผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พบว่าเคยติดคุกคดีฆ่าผู้อื่นมาแล้วครั้งหนึ่ง แถมยังขาใหญ่ในพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์ มีอาวุธปืนกลแบบ เอ็มพี 5 ในการสังหารครั้งนี้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 6 ร่วมกับ ชุดสืบสวนจังหวัดพิษณุโลก ได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตัวเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อเร่งล่าหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
////////////////