พิษณุโลก เปิดเคล็ดคลับ-ชัยชนะ ส.ส.หน้าใหม่เอี่ยม”ไก่-พรรคก้าวไกล”เขต 5 บอกไม่มีระบบหัวคะแนน ลงทุนค่าป้ายไม่ถึง 5 แสนกับทีมงาน 3 คน ไม่น่าเชื่อชาวบ้าน เบื่อการเมืองเก่าๆ เผย จ่อเป็นผู้แทนในนามพรรคก้าวไกล 2 ใน 5 คนของจังหวัด
วันนี้ 15 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ผลการเลือกตั้งของจังหวัดพิษณุโลกทั้ง 5 เขต ผลปรากฏว่า เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นแชมป์เก่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง พรรคก้าวไกล เขตเลือกตั้งที่ 2 แชมป์เก่า คือ นายนพพล เหลืองทองนารา พรรคเพื่อไทย รักษาตำแหน่ง ส.ส.อีกสมัย ส่วน เขต 3นายพงษ์มนู ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ แจ้งเกิด สามารถโค่นแชมป์เก่า คือ นายอนุชา น้อยวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐซึ่งย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยสำเร็จ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ นายนิยม ช่างพินิจ แชมป์เก่าเขต 4 ส.ส.ถูกโค่น เพราะทานกระแสพรรคเพื่อไทยไม่ได้ คือ นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ หรืออดีต ส.จ. ปานทิพย์ สำหรับเขต 5 นาย ศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ พรรคก้าวไกล น้องใหม่วงการการเมือง แจ้งเกิดได้สำเร็จ
เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเคล็ดลับ ความสำเร็จว่า กระแสความนิยม เบื่อระบบพรรคการเมืองเก่าๆ ก็ไม่เชื่อว่า พัดมาถึงดินแดนอำเภอห่างไกลอย่าง อ.นครไทย อ.ชาติตระการและ อ.วัดโบสถ์ ตนไม่มีระบบหัวคะแนน มีทีมงานเพียง 3 คน และรถแห่ 4 คันเท่านั้น หากถามว่า ลงทุนหรือเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งนี้เท่าใด บอกได้เลยว่า ไม่ถึง 500,000 บาท
“ชาวบ้าน เบื่อนักการเมืองรุ่นเก่า ที่ชอบกั๊กคำพูด สัญญาต่างๆ พูดแล้ว ทำไม่ได้ และนักการเมืองรุ่นเก่านั้น หากได้รับเลือกตั้งแล้ว หรือผ่านพ้นวันนี้ไปแล้ว ชีวิตมักเปลี่ยนไป คือ เข้าถึงยาก จะบอกเงื่อนไขต่างๆเยอะ เรียกว่า ทำไม่ได้ แต่สำหรับตนนั้น ทำการเมืองมา 3 ปีแล้ว อาจเรียกว่า เป็นผู้แทนของชาวบ้านหรือทำงานมาก่อน อาทิ เรื่องมะม่วงราคาตกต่ำตนก็ลงเข้าไปดูแล หรือปัญหาความเดือดร้อนต้องก็ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างจริงจัง แต่ยอมรับว่า ตนไม่ได้ไปงานบุญงานบวชหรืองานศพเลย ถามว่า ชาวบ้านรู้จักตรงไหน นั่นแหละ คือ คำตอบ ของการเมืองรูปแบบใหม่ ใช้ผลงานที่ทำกับชาวบ้านมานาน จับงานเป็นชิ้นหลักๆ เรียกว่า ทำการเมืองที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้นซ้อน อย่าไปพูดอะไรที่ชาวบ้านเข้าใจยาก ลงมือทำเลย”
“ความสำเร็จวันนี้ ก็ยังขอชื่นชมชาวบ้าน ที่เริ่มสนใจการเมือง เบื่อโครงสร้างระบบเก่าๆ ต้องถามนายก่อน ต้องถามหัวหน้าก่อน และที่สำคัญชาวบ้าน เขาไม่ชอบคำหวานหรือคำพูดของนักการเมืองอีกแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นาย ศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ชื่อเล่น ไก่ อายุ 42 ปี จบปริญญาตรี เป็นลูกคนเล็ก (คนที่ 3) ของ นายประสงค์ สระคู ปัจจุบันอายุกว่า 70 ปี อดีตประธานสภาอบจ.พิษณุโลก ซึ่งสมัยนั้น”ไก่” ยังเรียนหนังสืออยู่ จบประถมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียน พิษณุโลกพิทยาคม รุ่น 38 – 41 จากนั้นไปจบปริญญาตรี นิติศาสตร์รามคำแหง และยังจบปริญญาตรีอื่นๆรวม 3 ใบภูมิลำเนาคือ คนอำเภอนครไทยแท้ๆ ถือว่าเป็นว่าที่ ส.ส.หน้าใหม่เอี่ยมของคนพิษณุโลกอีกคนในนามพรรคก้าวไกล
สำหรับภาพรวมว่าที่ ส.ส.พิษณุโลก คือ พรรคเพื่อไทย 2 ที่นั่ง พรรคก้าวไกล 2 ที่นั่งและพรรครวมไทยรักษาชาติ 1 ที่นั่ง
โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 แชมป์เก่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง มีคะแนน 40,198 คะแนน คะแนนทิ้งห่างอันดับ 2 นายอดุลย์วิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ หรือ ส.จ.อั้ม อดีตส.จ.พิษณุโลก คะแนน 18,685 คะแนน และอันดับ 3 น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท พรรคเพื่อไทย คะแนน 17,778 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 2 แชมป์เก่า พรรคเพื่อไทย นายนพพล เหลืองทองนารา อดีตส.ส.ในพื้นที่ 2 สมัย คะแนนนำโด่ง 30,819 นำโด่ง นายมีดี บัวแก้ว พรรคก้าวไกล 23,516 คะแนน ตามด้วย 3 นายอิทธิพล บุบผะศิริ พรรคภูมิใจไทย มี 17,843 คะแนน มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 112,974 คิดเป็น77.06
เขตเลือกตั้งที่ 3 แชมป์เก่า คือ นายอนุชา น้อยวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ครั้งนี้ได้คะแนน 18,208 คะแนน พ่ายแพ้ ให้กับ นายพงษ์มนู ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรองนายกอบจ.พิษณุโลก มีคะแนนลำดับ 1 ด้วยคะแนน 22,277 คะแนน ลำดับ 3 คือ นายจเด็ศ จันทรา มีคะแนน 20,620 คะแนน
เขตเลือกตั้งที่ 4 นายนิยม ช่างพินิจ อดีต สส พรรคเพื่อไทย ย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย เคยผูกขาด ส.ส. ในเขตนี้ กลับได้ลำดับ 2 คะแนน 24,310 คะแนน ตามหลังคะแนน พรรคเพื่อไทย คือ นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ หรือ ส.จ. ปานทิพย์ เป็นอดีต ส.จ.มีคะแนน 25,626 คะแนน ถือว่า ห่างกันไม่มาก
เขตเลือกตั้งที่ 5 นาย ศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ทำคะแนนอันดับที่ 1 ด้วย 22,222 คะแนนซึ่งถือว่า ส.ส.หน้าใหม่ เพิ่งแจ้งเกิดในนามพรรคก้าวไกล ทิ้งห่าง ลำดับที่ 2 คือ นายเอกพงษ์ กุลเจริญ พรรคพลังประชารัฐ 16,558 คะแนน ลำดับที่ 3 พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชค พรรครวมไทยสร้างชาติได้ 14,610 คะแนน