ผู้สมัครพลังประชารัฐเขต 4   ประกาศสละสิทธิ์เป็นผู้รับสมัคร

พิษณุโลก อัศวิน นิลเต่า ผู้สมัครเขต 4 พรรคพลังประชารัฐพิษณุโลก โพสต์แจ้ง FC ขอสละสิทธิ์เป็นผู้สมัคร ส.ส.  ก่อนเลือกตั้งล่วงหน้า 3 วัน  พร้อมเก็บป้ายรถแห่ทั้งหมด เพราะ พรรคมองเป็นแค่ไม้ประดับ ไม่มีส่งแรงหนุน เท่าที่ควร ประเมินตัวเองเข้าป้ายเป็นอันดับ 4

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ที่เขต 4 พิษณุโลก นายอัศวิน นิลเต่า ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์บน Facebook ส่วนตัว อัศวินรุ่นเก่าใจ  ความว่า แจ้ง FC และผู้สนับสนุนผม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ผมขอสละสิทธิ์ ไม่ขอรับเป็นผู้สมัคร สร้างความมึนงงให้กับผู้สนับสนุนและผู้ติดตามในอัศวินพอสมควรต่างเข้ามาคอมเม้นท์ ถามถึงเหตุผลและส่งกำลังใจให้ โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่าเคารพการตัดสินใจของนายอัศวิน

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป ขอสัมภาษณ์นายอัศวิน นิลเต่า ณ ที่ทำการพักที่บ้านวังกุ่ม ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก นายอัศวิน เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ได้คิดมาหลายวันแล้ว และได้ตัดสินใจ โพสต์เมื่อเช้านี้ หลังจากได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย กกต. พิษณุโลก ว่า จะขอสละสิทธิ์ออกจากการเป็นผู้รับสมัครเลือกตั้งได้หรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบจากฝ่ายกฎหมาย กกต.ว่า ไม่สามารถทำได้ ตนจึงตัดสินใจโพสต์ ข้อความเพื่อแจ้งให้กับผู้สนับสนุนตนทราบ

โดยตั้งแต่เมื่อวานนี้ตนได้ยุติการหาเสียงทั้งหมดแล้ว โดยรถแห่ทั้งหมด 12 คัน ที่ได้ว่าจ้างได้วิ่งวันละ 1,000 บาท  ให้นำป้ายหาเสียงติดรถแห่ มาคืน ณ ที่ทำการพรรคของตน และตนได้จ่ายค่าจ้างทั้งหมดไม่มีการติดค้างใดๆทั้งสิ้น ขณะนี้ยังคงเหลือการหาเสียงในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 ที่ตนยังดำเนินการให้อยู่ ยังว่าจ้าง ให้ทีมงาน ไปแจกตามตลาดนัดต่างๆ เพื่อให้มีการเลือกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนตนเองนั้น ไม่หาเสียงแล้ว และไม่ได้สนใจด้วยว่าจะได้กี่คะแนน รวมทั้ง ตัวตนเองก็จะไม่ลงคะแนนให้ตัวเองด้วย  นอกจากนี้บรรยากาศที่ทำการพรรคได้มีป้าย แผ่นพับ และจอดหมายปิดผนึกพร้อมข้อความขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ให้โอกาสเป็นตัวแทนทำหน้าที่สร้างโอกาสในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน พร้อมกับแนบแผ่นพับของพรรค ให้ประชาชนทุกหลังคาเรือน แต่ไม่ทันได้แจกเพราะถอดใจเสียก่อน

นายอัศวินเปิดใจอีกว่าสาเหตุที่ อยากสละสิทธิ์ ไม่ขอเป็นผู้สมัครอีก เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจากพรรค ไม่เหมือนผู้สมัครของเขตอื่นหรือผู้สมัครในเขตความหวังที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากพรรคจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ด้วยขณะนี้คงไม่สามารถต่อสู้กับผู้สมัครในเขตได้ เหมือนกับ น้ำมันที่เติมในรถ ผู้สมัครพรรคอื่นๆ ได้เติมน้ำมันเต็มร้อย ส่วนตนได้เพียงน้อยนิด สู้ไปก็ไม่ทันเขา ได้เป็นเพียงแค่ไม้ประดับ ถ้าได้รับการสนับสนุนมากพอ ตนเชื่อว่า ยังพอสู้ได้สูสี ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ตนก็ประเมินตัวเองไว้ว่าน่าจะได้ อยู่ลำดับที่ 4 ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ของพิษณุโลก

สำหรับการลงสมัครรอบนี้ นายอัศวินได้รับการทาบทางติดต่อจาก ผู้กองธรรมนัส ที่ดูแลสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือของพรรคพลังประชารัฐ และเป็นการลงสมัครครั้งที่ 2 ในนามพรรคพลังประชารัฐ การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นายอัศวินได้มาประมาณหมื่นคะแนน  นอกจากนี้บรรยากาศที่ทำการพรรคยังคงมีทีมงานช่วยหาเสียงมาร่วมตัวกันเพื่อให้กำลังใจนายอัศวิน นิลเต่า อย่างไม่ขาดสายอีกด้วย

 

/////

แสดงความคิดเห็น