เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 เมษายน ที่บริเวณสนาม โรงเรียน เตรียมอุดมศึกษา ตำบลหัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่าที่ร้อยตรีอิทธิพล บุบผะศิริ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยเขต 2 จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย พันโทจักรกริช บุบผะศิริ ข้าราชการบำนาญ ซึ่งเป็นพี่ชายฝาแฝด ได้ลงมาช่วยน้องชายหาเสียงโดยทั้งสองจะแต่งกายเหมือนกัน ขณะลงพื้นที่ล่าสุดวันนี้ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ก็แต่งกายเหมือนกันอีก โดยมีชาวบ้านจากตำบลหัวรอ 12 หมู่บ้านมาเข้าร่วมรับฟังกว่า 1,200 คน
ว่าที่ร้อยตรีอิทธิพล บุบผะศิริ ผู้สมัครเบอร์ 3 พรรคภูมิใจไทยเขต 2 จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องการเข้าม้าทำงานเป็นผู้แทนราษฎร เนื่องจากตนเป็นครอบครัวลูกชาวบ้านเข้าถึงเรื่องความจนของครอบครัวที่พยายามดิ้นรนในการที่จะเข้าไปศึกษาเล่าเรียนในกรุงเทพฯ โดยไปนอนอยู่ที่วัด จึงเข้าใจชีวิตคนจน การเป็นคนจนต้องทำอะไรอย่างเงียบๆ ไม่เหมือนคนรวยที่ทำอะไรเบาๆ ก็ได้ยินหมด เมื่อเรียนจบกฎหมาย เริ่มต้นราชการที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ผมกับพี่ชายเวลารับราชการ ที่จังหวัดอุตรดิตถ์พร้อมกัน ผมเป็นปลัดอำเภอ และชีวิตหลังจากเกษียณ ก็มาเกษียณราชการ ที่จังหวัดพิษณุโลก พร้อมกัน เราทั้งสองทำงานรับใช้ชาวบ้าน โดยผมเป็นปลัดอำเภอหลายแห่ง และ เป็นนายอำเภอ 2 อำเภอ คือ พื้นที่อำเภอพรหมพิรามและอำเภอเมืองพิษณุโลก และเป็นรองนายก อบจ.พิษณุโลก จึงเข้าใจชาวบ้านอยู่ดี
“ในการทำงาน มีคนทักผิดบ่อยครั้ง แต่ในการทำงานผมก็ได้พี่ชาย ด้วยเช่นเดียวกัน โดยพี่ชายขอฝากในฐานะที่เคยเป็นอดีต ผอ.กกต. ว่า ในวันที่ 14 พฤษภาคม เวลา 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น ขอให้ชาวบ้านได้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีบัตรให้เลือก 2 ใบ สีม่วงกับสีเขียว สีม่วงเลือก อิทธิพล เบอร์ 3 ส่วนสีเขียวเลือกพรรค”
ว่าที่ร้อยตรีอิทธิพล กล่าวว่า มีพี่ชายออกมาช่วยหาเสียงด้วยเพราะว่าเราเติบโตมาด้วยกัน มีแนวคิดคล้ายๆกัน ส่วนแนวคิดในการ สมัคร ส.ส.ในครั้งนี้ มีความอยากเห็นความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้น อยากมองเห็นการพัฒนาของพื้นที่ไม่ถูกทอดทิ้ง เพราะในอดีตผมเคยเป็นนายอำเภอ ทั้งในอำเภอพรหมพิรามและอำเภอเมืองพิษณุโลก และเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ดังนั้นการทำงานในพื้นที่ มีมากล้นพร้อม ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในพื้นที่เขต 2 ทำทันทีไม่มีสร้างภาพ ทำทันทีพูดแล้วทำ
สำหรับนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทยคือ การพักชำระหนี้ 3 ปีพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยประชาชนไม่ต้องส่งเงินต้น ดอกเบี้ย รัฐเป็นคนดูแลให้ ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน โควิดที่ผ่านมาประชาชนติดขัดในด้านเศรษฐกิจ ติดปัญหาด้านเงินทอง จึงเป็นโอกาสที่ดีของ ประชาชนในการหยุดชำระหนี้ เพื่อจะได้มีเวลาเก็บเงินชำระหนี้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศขณะที่มีการปราศรัย ปรากฏว่า ได้มีลมพายุฤดูร้อน พัดด้วยความแรง หอบฝุ่น มาบริเวณที่จุดปราศรัยทำให้ชาวบ้านแตกตื่น รีบหลบหนีลมพายุก่อนที่ฝนจะตก ทำให้บรรยากาศในช่วงนั้นวุ่นวาย โกลาหล ด้วยชาวบ้านต่างรีบเร่งกลับบ้าน ขณะที่เก้าอี้พลาสติก ถูกลมพัดปลิว ซึ่งก็มีชาวบ้านบางส่วนได้ช่วยกันเก็บเก้าอี้พร้อมป้ายหาเสียงก่อน ที่จะเดินทางกลับไปอีกด้วย
///