“หมอวรงค์” ก้มกราบขออนุญาตชาวพิษณุโลก ขอเป็น “นายกรัฐมนตรี”

วันที่ 18 เมษายน  ที่เวทีสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.พิษณุโลก  นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี  พร้อมด้วย นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรค  นายทินกร ปลอดภัย  ผอ.พรรค  พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช  เลขาธิการพรรค ยกทีมมาปราศรัยเวทีใหญ่เวทีแรกต่างจังหวัด ที่ จ.พิษณุโลก  พร้อมเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 5 เขตของจังหวัดพิษณุโลก ประกอบด้วย นางเฉลิมศรี จันทร์หิรัญ เขตเลือกตั้งที่ 1   นายทองคำ  รอทอง เขตเลือกตั้งที่ 2  นางรัตติกร  บัวจรูญ เขตเลือกตั้งที่ 3  นายสมบูรณ์  จำเนียรสุขสกุล เขตเลือกตั้งที่ 4 นายอวยชัย  ใจรักษ์  เขตเลือกตั้งที่ 5 โดยมีประชาชนมาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 1,000 คน

นายถาวร  เสนเนียม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี  กล่าวในการปราศรัยถึงนโยบายโดยรวมของพรรคไทยภักดี ที่ปกป้องสถาบัน สนับสนุนการเกษตรสินค้าเกษตรตกต่ำ การจำหน่ายสินค้า ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา การปราบปรามการทุจริต กล่าวโจมตีพรรคการเมืองที่จะแก้ไขกฎหมาย ม.112  พร้อมระบุพรรคไม่มีตังค์ คำถามนี้ถามกลับมาก็คือ ส่งผู้สมัครทั่วประเทศ 301  คน กองทัพเดินด้วยท้อง จะต้องมีทะเบียน แต่นักการเมืองแค่มีทะเบียนเล็กน้อยเสบียงที่สำคัญที่สุดก็คือความตั้งใจดีและอุดมการณ์ทั้ง 300 กับ 1 คน ผมขอขอบคุณที่มีอุดมการณ์ปรบมือดังๆให้พรรคไทภักดีทั่วประเทศ รวมทั้ง จ.พิษณุโลก 5 คนของพี่น้อง

นายถาวร กล่าวว่า ผมขับรถผ่านไปตามถนนหนทางตามในตลาดผมกล้าพูดได้ว่าหลายพรรคไม่กล้าเอาหัวหน้าพรรคของตัวเองทำแบรนเนอร์ เป็นรูปถ่ายผู้ร่วมหรือคนที่ถูกเสนอในนามพรรคของตัวเองเป็นว่าที่ นายกรัฐมนตรี ไม่กล้าเอาภาพถ่ายนั้นเกียรติยศศักดิ์ศรี ให้เป็น นายกรัฐมนตรี มีมากหรือมีน้อย แต่สำหรับหมอวรงค์ ดูซิ ประกาศตัวว่าผมพร้อมเป็นนายก แต่คนของพี่น้อง เป็นนายกฯ จะเป็นได้หรือไม่ได้ไม่ใช่อยู่ที่ผม ไม่ได้อยู่ที่หมอวรค์  ง ไม่ได้อยู่ที่คน 301 คน อยู่ที่พี่น้องทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่

“กรณีนักการเมือง ถ้าไม่มีวิธีคิด ก็ง่ายนิดเดียว เอาเงินงบประมาณมาสนับสนุนชดเชยราคาที่แตกต่าง ที่ประกันเอาไว้ ง่ายนิดเดียว แต่ถ้านักการเมืองดีๆมีความตั้งใจ ผมมั่นใจว่าแก้ไขปัญหาได้  ทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่เกิดราคาแก๊สหุงต้มแพง ไฟฟ้าแพง อินเทอร์เน็ตแพง นั่นคือเกิดจากการนักการเมืองร่วมกันพ่อค้าผูกขาด และนายทุนสามารถถามกลับมาว่าเกิดจากอะไรก็เพราะเกิดจากการทดแทน ดังนั้นนโยบาย ข้อที่ 1 ก็คือปกป้องสถาบัน ข้อที่ 2 คือป้องกันปราบปรามการทุจริตถ้าเราแก้ไขปัญหาการทุจริตได้ ทั้งหลายทั้งปวงที่พี่น้องกังวลจะไม่เกิด  หมอวรงค์ เคยพูดหลายครั้ง ผมก็เสนอมาหลายครั้งว่าเมื่อการแก้ไขปัญหาการทุจริตเกิดขึ้น  มีวิธีอย่างไร หลายพรรคการเมืองเสนอนโยบายบอกว่า ปราบปรามการทุจริต แก้ไขปัญหาทุจริต แต่ในขณะที่ตัวเองนี่โกงแล้วโกงอีก หรือรู้แล้วว่ามีการโกงเกิดขึ้นก็ไม่กล้าที่จะเอาคนเหล่านั้นไปเข้าคุก วิธี การ ที่เราจะเสนอก็คือ คดีทุจริตจะไม่มีอายุ คนคนหนึ่งที่หนีไปอยู่ดูไบ ถูกศาลที่พิพากษาจำคุกอย่างเดียวเท่านั้น ถึงจะจบกัน”

นายถาวรกล่าว เคยเห็นว่า นักการเมืองหลายคนไม่มีอาชีพอะไรปรากฏแจ้งบัญชี มีรายได้มาจากไหนเสียภาษีหรือไม่ ถ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้ ยึดเข้าร่วมและส่งไปดำเนินคดีในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ  ถ้าจำได้มีปลัดกระทรวงคนหนึ่งถูกปล้นบ้าน แกไปแจ้งความว่าบ้านแกถูกปล้น เงินหายไป 5 ล้าน เป็นเงินที่ได้มาจาก ค่าสินสอดของลูกสาว แต่โจรที่ถูกจับได้ เพราะของกลาง 20 กว่าล้านมันบอกมันได้มาเยอะกว่านี้ แต่ขณะนี้ออกไปใช้จ่ายพอหมดแล้ว เหลือของกลางอยู่ 20 ล้าน ปรากฏว่าเป็นการแจ้งความเท็จร่ำรวยผิดปกติ เขาเชื่อโจรเขาไม่เชื่อปลัดกระทรวงศาลพิพากษาจำคุก 8 เดือน เงิน 20 ล้าน นั่นแหละ ถัดไปเมื่อไม่กี่ปี การติดสินบนกันเยอะในห้องทำงานของพระอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ปรากฏออกเงินได้ 1,000 บาท พอจับได้ 6 ล้านกว่าบาท ก็ปรากฏว่า เงินนี่แท้จริงแล้ว เป็นเงินติดสินบนเงินทอง สิ่งเหล่านี้เราจะยกเลิกแบงค์พันแบงค์พันไม่ใช่ของไม่ดีแต่เนื่องจากเป็นเครื่องมือในสิงคโปร์ในจีนเขายกเลิกถ้าให้เกิดความสะดวกแบบนี้เขาเรียกว่า ebanking สามารถจ่ายทำธุรกรรมทางด้านการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือที่ผ่านเครื่องมือได้หมดนั่นคือสิ่งที่เราจะเสนอเพื่อที่จะให้มีการแก้ไขแต่สุดท้ายการแก้ไขปัญหาทุจริตอยู่ที่ความเชื่อมั่นของพี่น้องในพรรคเรา

ต่อมา นพ. วรงค์  เดชกิจวิกรม กล่าวว่า ผมมาพิษณุโลก  ครั้งนี้ เพื่อมาขออนุญาตชาวพิษณุโลก เพื่อขอเป็น นายกรัฐมนตรี พร้อมกับก้มลงกราบขอชาวพิษณุโลก ก่อนไปอาสาทานเพื่อประเทศชาติ และการมาปราศรัยของพรรคไทยภักดี เวทีใหญ่ต่างจังหวัดครั้งแรก ก็เลือกที่ จ.พิษณุโลก เป็นที่แรกก่อนจะไปปราศรัยพื้นที่อื่นๆ  พรรคไทยภักดีเราเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศตัวปกป้องสถาบันอย่างภักดี ดูแลด้านเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร  ประชาชนรากหญ้าไม่ต่างจากพรรคการเมืองใหญ่ เพราะปัญหาของเกษตรกรคนไทยทั้งประเทศ ไม่มีพรรคการเมืองพรรคไหนทำได้ แต่ผม ในฐานะที่จะต้องไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผมจะทำปุ๋ยยูเรีย จากกระสอบละ 1,300 ถึง 1,400-1,500 เหลือ 750 บาทเท่านั้น  ทำโครงการ ปลดหนี้เกษตรกรภายใน 3 ปี และ นโยบายทวงคืนดาวเทียม Sim internet ความเร็วสูง ก๊าซหุงต้ม ลดลงเหลือถังละ 255 บาท ให้สวัสดิการอาสาสมัครกู้ภัย เท่า อสม.  น้ำทั้งปีมีทุกแปลงผ่านระบบท่อ

พร้อมกันนี้ในการปราศรัยมีการกล่าวโจมตีพรรคการเมืองที่จะแก้ไขกฎหมาย ม.112 กล่าวโจมตีพรรคการเมืองที่มีนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ด้วย บรรยากาศในปราศรัยได้มีประชาชนมาขอสัมผัส มือนายกรัฐมนตรี พร้อมบอกว่า แน่นอน 100 %  หลังจากการปราศรัยยุติ ในเวลาประมาณ 20.00 น. ประชาชนได้มาขอสัมผัสมือนายแพทย์วรงค์ มือนายกรัฐมนตรี ก่อนลงหน้าอีกด้วย

////////////

 

แสดงความคิดเห็น