พิษณุโลก เต้ มงคลกิตติ์ พาทีมงานนุ่งกางเกงลายช้างส่งเสริมความเป็นไทยอุดหนุนคนไทยกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า
เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 12 เมษายน ที่สวนกลางเมืองพิษณุโลก เขตเทศบาลนครพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ควงภรรยา นางสาวภัคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค พร้อมทีมงาน สวมกางเกงลายช้างไทย กางเกงผ้าฝ้ายทอมือของไทย ฝีมือชาวบ้านทางภาคเหนือ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ทั้งในกลุ่มของคนไทยและชาวต่างชาติ โดยระบุว่า การสวมใส่เสื้อฝ้ายช่วงฤดูร้อนรู้สึกสบาย ระบายอากาศได้ดีไม่อับชื้น ที่สำคัญเป็นผ้าไทยฝีมือคนไทย แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์สัญลักษณ์ความเป็นไทย และ ช้าง เป็นสัตว์ใหญ่สัตว์มงคลที่คนไทยเคารพบูชา เป็น แถมกางเกงช้างยังราคาถูกหลักร้อย ไม่ต้องใส่กางเกงแบรนด์เนมราคาหลักพันหลักหมื่น โดบบอกว่ากลับมาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก ก่อนเดินชมและถ่ายรูปกับเจดีย์ทราย ที่ชาวชุมชนเทศบาลนครพิษณุโลก ก่อขึ้นภายในงาน ก่อนเดินทางไปอุดหนุนเที่ยวชมงานมหกรรมอาหารและงานสงกรานต์จังหวัดพิษณุโลก ที่จัดขึ้นบริเวณริมแม่น้ำน่าน กลางเมือง โดยบรรยากาศการเดินเที่ยว ปรากฏว่ามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ชื่นชอบ ความเป็นกันเอง ของเต้ มงคลกิตติ์ ทักทายและ ขอถ่ายรูปด้วอย่างเป็นกันเอง พร้อมฝากคนพิษณุโลกให้ช่วยเลือกพรรคไทยศิวิไลซ์เบอร์ 42 ด้วย
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้กลับมาบ้าน พาทีมงานมาหาเสียงที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผมที่ได้ส่ง ผู้สมัครลงเลือกตั้ง 4 เขต ไม่ได้ส่งเพียงเขต 5 เท่านั้น หวังว่าประชาชนจะให้โอกาสให้พรรคได้ดูแลคนพิษณุโลก เพื่อพัฒนาบ้านเมืองพิษณุโลกให้ดีขึ้น เราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจระดับฐานรากไม่ขยับ ซึ่งนโยบายของพรรคต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 22 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละแสนห้าหมื่นบาท โดยการปล่อยกู้ ไม่สามารถให้เปล่าได้ เดี๋ยวเป็นหนี้สาธารณะ โดยทำเป็นประกันค้ำวงเงิน เหมือนสมัยพลเอกประยุทธ์ ออกพระราชกำหนดช่วยเหลือ SME เป็นต้น แต่เราไม่สามารถทำแบบ คุณเศรษฐาทวีสิน ได้ เพราะเราไม่มีงบประมาณเยอะขนาดนั้น เพราะ ลำพัง รายรับของประเทศมีประมาณ 2.5 ล้านล้าน รายจ่ายปีละ 3.2 ล้านล้าน ติดลบปีละ 7 แสนล้านล้าน ถ้านำเงินตัวนั้นมาจ่ายเป็นเงินดิจิตอลให้กับประชาชน 55 ล้านคน 550,000 ล้าน ประเทศเราจะไม่มีเงินไปทำอะไรเลย แต่ถ้าเป็นช่วงที่เรามีหนี้ GDP ไม่เกิน 45% ก็ทำได้ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ เพราะเป็นเงินให้เปล่า ไม่มีที่มาที่ไปมันไม่ได้ การออก พรก.เงินกู้ 550,000 ล้านบาทไม่มีใครให้กู้ กกต. คงต้องจัดการเองมันไม่ผ่านนโยบายตรงนี้ คุณเศรษฐา เอง ก็คิดไม่รอบคอบไม่รอบด้าน การใช้งบประมาณปี 67 ไปใช้ก็ไม่ได้ เพราะปี 67 เรายังขาดดุล ประมาณ 350,000 ล้าน แม้ว่าเราจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวปี 66 เข้ามาประมาณ 30 ล้านคน รายได้ประมาณ 2.5 ล้านล้าน ภาษีประมาณ 300,000 ล้าน ก็ยังทำไม่ได้ เราก็ยังขาดทุนอยู่ นโยบายไหนทำได้ทำไม่ได้เราก็จะบอก ซึ่งไม่เหมือนนโยบายของเราแสนห้า เราทำได้ เพราะเราออกเป็นพระราชกำหนดให้กระทรวงการคลัง อัดฉีดเงินเข้าไปในระบบ 3.3 ล้านล้าน โดยมีการผ่อนชำระ มีการค้ำประกันวงเงินไม่เป็นหนี้สาธารณะเพราะเครื่องยนต์ที่สำคัญคือ การลงทุนภาครัฐ การท่องเที่ยว การส่งออก ฐานรากถ้าทุกอย่างเคลื่อน ทุกอย่างจะขับเคลื่อนได้หมด เพราะถ้าฐานราก เกิดขับเคลื่อนดีจะมีถ้ามีภาษีประมาณ 7 แสนล้านล้านบาทเลยทีเดียว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้อากาศร้อนมาก เป็นห่วงประชาชน ที่เล่นน้ำช่วงกลางวัน อาจเป็น heat Stroke ทำให้ประชาชนเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 35-40 ปี เมื่ออุณหภูมิสูงความดันอาจสูงขึ้นอาจทำให้เสียชีวิตได้
พรรคเพื่อไทย จะมีนโยบายแลนด์สไลด์ ทั่วไทย เราก็ไม่ว่า แต่ผมมาที่ พิษณุโลก มาดูปราสาททรายพรรคไทยศรีวิไลย์ จะแซนด์สไลด์ จะมีทรายขึ้นมาแล้วก็แซงสไลด์เราไม่หวังมากแค่ 25 ที่นั่งก็พอใจแล้ว เราต้องการทำนโยบายให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าอัดฉีด 150,000 บาท หรือนโยบายที่เราสัญญาไว้กับทหารผ่านศึกที่ผ่านสงคราม ประมาณล้านคนเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ส่วนเราจะเข้าร่วมกับใครนั้น ต้องดูว่านโยบายพรรคเพื่อไทยเป็นยังไง ต้องดูว่าเขามีความชัดเจนกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมไหม แต่ถ้าเขาต้องการจับมือพรรคเดียว เราก็ยอมเป็นฝ่ายค้าน แต่ผมก็คิดว่าไม่น่าจะถึง เพื่อไทยอย่างมากก็ได้ประมาณ 200 ได้คะแนนเสียงจาก ภาคอีสานกับภาคเหนือ ได้ประมาณ 200 เขต จะได้หมดเลยเหรอ เป็นไปไม่ได้ เขตประมาณ 140 เขต บัญชีรายชื่อ 40 คน ก็ประมาณ 180 คน ผมก็เชื่อว่า Land สไลด์ไม่มีจริง แต่ก็ต้องภาวนาว่าจะไม่มีใครไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทยก่อน เพราะถ้าไปยื่นยุบพรรค แล้วไปถึงพรรคก้าวไกล คะแนนก็จะเทมา พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคเราส่งจำนวน ส.ส เขตลงไปไม่พอ เราส่งบัญชีรายชื่อแค่ 21 คน ถ้าเกิดมากเกินไปเราก็ไม่เอา เดี๋ยวจะคอนโทรลไม่ได้เหมือนพรรคอนาคตใหม่ กลายเป็นงูเห่ากันเยอะ
ที่สำคัญเราจะไม่แก้กฎหมายมาตรา 112 ที่คุณพิธา ก้าวไกล ให้ยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งผิด พรบ.การเมืองมีความผิดถึงยุบพรรค เพราะฉะนั้นถ้าทำแบบนี้จะเกิดความไม่มั่นคงของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดพิษณุโลกเป็นดินแดนของพระมหากษัตริย์คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่ง ม.112 ควรเป็นกฎหมายที่คุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าไม่ทำผิดจริงไม่ถูกลงโทษ แต่ถ้าคนทำผิดจริงก็สมควรถูกลงโทษ เพราะฉะนั้นกฎหมายข้อนี้ไม่ได้เดือดร้อนใครเลย ถ้าไม่มีเจตนาพิเศษ การออกนโยบายต่างๆเพื่อต้องการคะแนนเสียงของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นการทำลายล้างความมั่นคงของประเทศไทย ควรไปหานโยบายอื่นที่ดูแลปากท้องของประชาชนดูแลเศรษฐกิจ ฐานราก ดูแลคนแก่ 5,000 บาทหรือดูแลคนพิการ เดือนละ 3,000 บาท น่าจะดีกว่า อย่าทำนโยบายที่กระทบ ความมั่นคงของรัฐเลย เพราะฉะนั้นอยากเตือนถ้าไม่อยากยุบพรรคเร็ว ก็ให้รีบเปลี่ยนนโยบาย
ส่วนนโยบาย การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร พรรคเรามองว่า ไม่ควรยกเลิก เพราะ เราจำเป็นต้องมีกำลังทหาร เพราะประเทศเพื่อนบ้านเราอาจมีการสู้รบกัน กำลังทหารควรมีไว้ ยามสงบเราฝึก ยามมีอุทกภัย ทหารก็มาดูแลประชาชน จะมีทหารเพียงบางส่วน ที่จะไปดายหญ้า ซัก กกน.ให้กับภรรยา ผู้บังคับบัญชา ซึ่งตรงนี้มีไม่มาก ทหารเกณฑ์มีปีละประมาณ 100,000 คน ที่จะไปทำประเภทนี้ประมาณหลักพัน เราเพียงแค่ไปจัดการส่วนนี้ ให้ผู้บัญชาการกรมเป็นผู้ดำเนินการเอง อย่าปล่อยให้ทหารเกณฑ์ต้องเข้าไปทำงานส่วนนี้ ผมเป็นกรรมาธิการทหาร 4 ปี ผมมองว่าจำเป็นต้องมีกำลังทหารไว้ เวลามีสงครามเราจะมาเกณฑ์ทหารนั้นไม่ทันการณ์ กำลังทหารสำรองไม่ได้ฝึกฝนอาจไม่พร้อม กำลังรบควรอยู่ที่อายุ 20 ปีต้นๆ ไม่ใช้คนอายุมาก ยามศึกสงครามอาจเดือดร้อน เราควรต้องเพิ่มยุทโธปกรณ์กำลังอาวุธ เพื่อไปคานอำนาจ ทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่เศรษฐกิจเราต้องดี ทหารกำลังใจต้องดีต้องเพิ่มเงินเดือน อย่างที่นโยบายพรรคเรามีการเพิ่มเงินเดือน 10% ให้กับข้าราชการทุกปี ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี ใช้เงินเพียงปีละแสนกว่าล้าน ใช้เงินจากการเปิดเขตเศรษฐกิจคาสิโนเอาเงินจากต่างชาติ 2 ล้านล้าน ที่ได้กำไรมาบริหาร แล้วเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำปีละ 10% พรรคเรามีนโยบายค่อนข้างมากที่ดูแลประชาชนฐานราก