วันนี้ 2 มี.ค.66 นายพงษ์สรรพ์ สรรพาณิช อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 834/9 ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้พาผู้สื่อข่าวดูร่องรอยของกระสุนปีน ที่คนร้ายยิงใส่สำนักงานทนายความ ที่เป็นชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นบ้านพัก โดยนายพงษ์สรรพ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่าน ขณะที่ตนนอนอยู่ด้านบนชั้น 2 ส่วนภรรยากำลังสวดมนต์อยู่ห้องพระ ก็ได้ยินเสียงคล้ายปืนจำนวน 2 นัด ก็ไม่คิดอะไร นึกว่าเสียงประทัดดังธรรมดา จึงได้นอนต่อจนกระทั่งเช้ามาเปิดประตูบ้าน ก็พบว่าพนังกระจกด้านหน้าถูกอายุธปีนยิงเป็นรูกว้าง ประมาณ 1 คืบ และมีรอยร้าวไปยาว จำนวน 1 นัด และที่ป้ายไฟกระจกด้านบน เป็นรู อีก 1 นัด จึงได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและเก็บหลักฐานทันที โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพและเสียงขณะเกิดเหตุไว้ได้
นายพงษ์สรรพ์ กล่าวว่า ตนเอง เป็นทนายมากว่า 30 ปี ก็ไม่มีเรื่องอะไรกับใคร และว่าความให้ลูกความมาโดยตลอด ก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาปองร้ายจนถึงขั้นใช้อาวุธปืนมายิงบ้านและสำนักงานทนายความของตนเอง แต่ตนเองก็ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ไปแล้วบ้าง ที่ผ่านมาก็ไม่ปัญหาอะไร ถึงกับขั้นมายิงข่มขู่ขนาดนี้ ส่วนประเด็นที่อาจเป็นวัยรุ่นคึกคะนองนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถนนหน้าบ้านตนเองเป็นซอยและไม่สว่างมาก อาจมาก่อเหตุยิงใส่บ้านคนอื่นอาจเป็นไปไม่ได้ ซึ่งอย่างไรก็ตามก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี ซึ่งถือว่าเป็นการคุกคามและข่มขู่ตนเอง ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความ โดยหลังจากนั้นเช้าวันนี้ตนเองจึงได้ให้ช่างมาติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ทั้งในตัวบ้านและนอกบ้าน เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีมาก่อเหตุอีก
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงสำนักงานทนายความ ที่บริเวณย่านสถานีขนส่งโดยสาร แห่งเดิม นั้นก็ได้ให้ชุดพิสูจน์หลักฐานไปเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับไล่กล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าว เพื่อหาข้อมูลคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี ส่วนมูลเหตุของการเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวนอีกครั้ง อาจจะเป็นเรื่องการทำงาน หรือ วัยรุ่นคึกคะนอง ก็เป็นได้
//////////