พิษณุโลก เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ชาวนาตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่คัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวไรซ์เบอรี่ เฉพาะที่เป็นเมล็ดสีชมพู จนสามารถปลูกเป็นทุ่งนาข้าวสีชมพู หรือข้าวพันธุ์พิ้งค์เลดี้ ได้สำเร็จ ได้เริ่มลงมือปลูกปักดำข้าวจนเต็มแปลงแล้ว เพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และ ช่วงเทศกาลเดือนแห่งความรัก
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 106/8 หมู่ 11 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่ง นายจตุรงค์ ชมภูษา เกษตรกรรุ่นใหม่ของจังหวัดพิษณุโลกเป็นเจ้าของทุ่งนาข้าวสีชมพูและเป็นผู้ค้นพบขยายพันธุ์ข้าวชนิดนี้ ได้ทำการคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวไรซ์เบอรี่ ที่เป็นต้นสีชมพูออกมาเพาะปลูก จนได้นาข้าวสีชมพูหรือพิ้งค์เลดี้ อวดสายตาให้กับประชาชน ผู้ที่ต้องการถ่ายภาพกับนาข้าวสีชมพูหวาน ได้ทำการลงข้าวในแปลงนา 1 งาน คาดว่าจะกลายเป็นทุ่งนาข้าวสีชมพูภายในกลางเดือนธันวาคม ที่จะถึง
นางผกามาศ ชมภูษา อายุ 64 ปี มารดา นายจตุรงค์ ชมภูษา เกษตรกรรุ่นใหม่ของจังหวัดพิษณุโลกเป็นเจ้าของทุ่งนาข้าวสีชมพู กล่าวว่า สำหรับปีนี้นาข้าวสีชมพูได้เริ่มทำการปักดำนามาได้เพียง 4 วัน โดยยังคงทำการปลูกในพื้นที่เท่าเดิมคือประมาณ 100 ตารางวา หรือ ประมาณ 1 งาน ที่เหลือเป็นการปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ตามปกติ ทุ่งนาข้าวสีชมพูแปลงนี้จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาถ่ายรูป ช่วงที่ข้าวแตกกอมีใบเป็นสีชมพูสวยงามประมาณช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้แต่ช่วงที่ถ่ายรูปได้สวยที่สุดจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือช่วงเดือนแห่งความรัก ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นข้าวออกรวงใบข้าวจะเป็นสีชมพูเข้ม
“ซึ่งข้าวพิ้งค์เลดี้ หรือนาข้าวสีชมพูนี้ จะชื่นชอบสภาพอากาศที่หนาวเย็น เป็นข้าวไรซ์เบอรี่สีชมพู อายุนับตั้งแต่ปักดำจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตใช้เวลา 130 วัน แล้วยังให้ผลผลิตค่อนข้างน้อย ต้องดูแลประคบประหงมมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ข้าวออกรวง จะต้องมีการนำแสลนมาปกคลุมนาข้าวไว้ไม่ให้นก เข้าไปจิกกินเมล็ดพันธุ์ข้าวได้”
นางผกามาศ กล่าวว่า สำหรับรสชาดของข้าว Pink Lady นั้น ข้าวจะมีเมล็ดเป็นสีชมพู ข้าวอ่อนนุ่ม เนื้อในหวาน ยิ่งหากมีการขัดจะมีกลิ่นหอมมาก แต่ถ้าไม่ขัดสีเปลือกก็จะปกติ หากเทียบกับข้าวคุณภาพทั่วไปก็เทียบเท่าข้าวหอมมะลิ ซึ่งมีสภาพข้าวหอมอ่อนนุ่ม โดยส่วนตัวตนชอบข้าวพันธุ์พิงค์เลดี้ เพราะว่าเป็นข้าวที่ให้รสหวานอร่อยอ่อนนุ่ม ข้าวเป็นสีชมพูสวยงาม ขณะที่คนทั่วไปพยายามติดต่อเพื่อขอซื้อข้าว Pink Lady ไปรับประทาน แต่เนื่องจากผลผลิตน้อยเมล็ดข้าวมีจำนวนจำกัด ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไปได้ นอกจากนี้หากจำหน่ายราคายังค่อนข้างสูง กิโลกรัมละ 10,000 บาท แต่ก็มีคนสู้ราคาขอซื้อ แต่ทางเรายังไม่มีขายให้ เนื่องจากต้องใช้เมล็ดพันธุ์ในการเพาะปลูกในปีต่อๆไป ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาถ่ายรูปและเที่ยวชมทุ่งนาข้าวสีชมพู คงต้องรอช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป แต่หากเข้ามาในช่วงนี้ก็ มีเพียงแปลงทดลองเล็กๆอยู่ข้างบ้าน ให้พอถ่ายรูปอวดกันในสื่อโซเชียลได้
///////