ชาวบ้านรอบชุมชนวัดสนามคลี(ตะวันออก) อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เร่งมือผลิตกระทงสายจากกะลามะพร้าว 20,000 ใบ กระตุ้นใช้วัสดุธรรมชาติรักษ์โลกร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงสาย 1 เดียวในจังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดสนามคลี(ตะวันออก) ม.1 ต.สนามคลี อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ชาวบ้านรอบชุมชนวัด นักเรียน ผู้นำชุมชน และพระสงฆ์ได้เร่งมือกันผลิตกระทงสายจากกะลามะพร้าว จำนวน 20,000 ใบ เพื่อกระตุ้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติ ร่วมรักษ์โลกและร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงสายที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานถึง 15 ปี และเป็นเพียง 1 เดียวใน จ.พิษณุโลก ยามค่ำคืนเมื่อจุดกระทงจะส่องแสงสว่างเมื่อนำมาลอยพร้อมกันในแม่น้ำ กระทงนับหมื่นดวงจะทอแสงระยิบระยับเป็นสายยาวสุดสายตาแลดูสวยงามในวันลอยกระทง 8 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
พระครูสังฆรักษ์เชษฐา ปิยสาสโน เจ้าอาวาสวัดสนามคลี(ตะวันออก) ได้เล่าให้ฟังว่า ในปี พ.ศ.2550 คุณโยมแม่ฟู คณิกา เป็นลูกหลานของตระกูลแซ่โค้ว ที่มาตั้งรกรากสืบทอดต้นตระกูลอยู่ระแวกนี้และได้เห็นวิถีชาวจีนที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ผูกพันกับแม่น้ำน่านแห่งนี้มาหลายชั่วอายุคน ทั้งแหล่งอาหาร ช่องทางการติดต่อกับผู้คนฝั่งตรงข้ามและถิ่นอื่นๆ ในทุกๆปีชาวบ้านทั้งสองฝั่งน่านก็จะทำกระทงใบตองเพื่อมาลอยกระทองตามประเพณี ก็เห็นกันจนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่แปลกใหม่ จึงได้มีแนวคิดที่จะลองทำกระทงจากะลามะพร้าว จึงได้นำกะลามะพร้าวที่ขูดเอาเนื้อในออกหมดแล้วมาขัดเกลาจนผิวเกลี้ยง แล้วนำเทียนพรรษาแท่งใหญ่มาต้มให้ละลาย จนเกิดเป็นน้ำใสๆ และนำไปเทลงในกะลา เอาเทียนไขแท่งเล็กมาปักตรงกลาง จุดไฟแล้วนำไปลอยน้ำ ปรากฏว่าลอยน้ำได้ดี และมีแสงสว่างมากกว่ากระทงใบตองปกติ ยิ่งทำจำนวนมากๆ เมื่อนำไปลอยพร้อมๆกันให้ไหลเป็นสายยามค่ำคืนสวยงามมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “กระทงสาย” 1 เดียวของ จ.พิษณุโลก และก็ได้สืบสานกันเรื่อยมา จาก 500 ใบ 1500 ใบ 2000 ใบ และในปีนี้ได้ผลิตถึง 20,000 หมื่นใบ เพื่อให้ค่ำคืนวันลอยกระทงในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ตลอดหน้าวัดสนามคลี(ตะวันออก)จะเห็นกระทงสายส่องแสงสว่างสวยงามไหลเป็นสายไปตามลำน้ำน่าน
พระครูสังฆรักษ์เชษฐา ปิยสาสโน เจ้าอาวาสวัดสนามคลี(ตะวันออก) ได้บอกว่าเริ่มผลิตกระทงสายมาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และยังเปิดให้เด็กนักเรียนชุมชนรอบวัดได้มาเรียนรู้และช่วยผลิต โดยแบ่งเป็นฐาน 9 ฐาน ในการเรียนรู้ เริ่มตั้งแต่ การปอกมะพร้าว การขูดกะลามะพร้าว การเกลากะลามะพร้าวและดัดแปลงรูปแบบกะลา การทำไส้เทียน การหล่อเทียนลงกะลา การบรรจุไส้เทียนลงกะลา การชุบน้ำมันไส้เทียน การทาสีกะลา และการตกแต่งกระทงกะลาพร้อมลอยน้ำ จึงอยากจะบอกญาติโยมว่าในงานประเพณีลอยกระทงทุกๆปีอยากกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปหันมาใช้วัสดุจากธรรมชาติในการใช้ลอยลงไปในสายน้ำ เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยใช้กะลาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำกระทงสายปล่อยไหลลอยน้ำเป็นสายเรียงรายกันไปดูสวยงาม อีกทั้งยังเป็นการสร้างการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
/////////////////////////