อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ในจังหวัดพิษณุโลก ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรู พร้อมสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือและสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ นำร่องดำเนินการใช้ Application กับสมาชิกสหกรณ์แล้ว
วันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่วัดวังวน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบถุงยังชีพ “เราไม่ทิ้งกัน เดือดร้อนใจ เรียกใช้สหกรณ์” ให้แก่สมาชิกสหกรณ์พรหมพิราม จำกัด พร้อมให้กำลังใจสมาชิกและชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมและได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่น “โนรู” ในพื้นที่อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และเยี่ยมชมบูธมาตรการช่วยเหลือด้านต่างๆ รวมทั้งกิจกรรมการรับสมัครสมาชิกเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 , กข 85 และบูธกิจกรรมการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโค/กระบือ โดยมี นางสาวอังคณา เพียรรัตน์ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก นายอนุรัตน์ เลื่อนลอย สหกรณ์จังหวัดสุโขทัย นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ เจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการและสมาชิกสหกรณ์สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังมอบถุงยังชีพให้แก่สมาชิกและชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า “จากกรณีที่ได้มีพายุดีเปรสชั่นโนรู เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2565 จนส่งผลกระทบในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ รวมถึงสมาชิกสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ที่ประสบอุทกภัย ได้รับความเดือดร้อนรวมทั้งผลผลิตเสียหาย และขอชื่นชมคณะกรรมการดำเนินการ สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งในวันนี้ได้มีการจัดทำถุงยังชีพเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็น ในการดำรงชีพ สำหรับแจกให้กับสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 445 ถุง และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 55 ถุง รวมทั้งสิ้น 500 ถุง รวมไปถึงมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ในเบื้องต้น และขอเป็นกำลังใจให้กับสมาชิกสหกรณ์ทุกท่านร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง เพื่อที่จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน”
ด้านการฟื้นฟูอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบภัยในปีนี้ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ส่งเสริมให้มีการปลูกข้าว กข 43 ร่วมกับบริษัทเอกชน โดยการส่งเสริมให้ปลูกและรับซื้อกับสมาชิกทุกราย นอกจากนี้มีโครงการปลูกข้าวโพดหลังนา ด้วยเนื่องจากปัจจุบันอาหารสัตว์ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งราคาสูง การที่สมาชิกสหกรณ์ ผลิตแล้วจำหน่ายให้กับทางสหกรณ์ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น มีการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ อาทิ โคเนื้อ หรือสัตว์เศรษฐกิจอื่นๆ โดยทางสหกรณ์ให้สมาชิกสามารถกู้เงินในดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเป็นการช่วยเหลือยังมีการลดดอกเบี้ย ไม่คิดค่าปรับ และขยายเวลาชำระหนี้ให้สมาชิกได้ฟื้นตัวได้ ภายหลังจากได้รับอุทกภัย
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนโครงการส่งเสริมให้สหกรณ์ ใช้ Application เนื่องจากสหกรณ์มีการดำเนินธุรกิจมากกว่า 400-500 ล้านบาท ตัวเลขทางการเงินสมาชิกแต่ละรายมีหุ้น มีเงินฝาก และมีหนี้ที่ต้องชำระกับสหกรณ์ การนำนวัตกรรมเรื่องแอพพลิเคชั่น ให้กับสมาชิก จะทำให้สมาชิกรู้ข้อมูลของตนเองแบบเรียลไทม์ ทำให้มีการวางแผนทางการเงินได้รู้ว่าจะนำเงินไปใช้ในการผลิตอย่างไร ตลอดจนสามารถตรวจสอบเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาทุจริตของสหกรณ์ได้ตลอดเวลา ซึ่งในปีนี้ทางสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม ได้นำร่องดำเนินการใช้ Application กับสมาชิกสหกรณ์แล้ว ในขณะที่ในปี 2566 นี้ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ตั้งเป้าว่าจะให้สหกรณ์ทั่วประเทศทุกประเภท เริ่มใช้แอพพลิเคชั่นให้ได้อย่างน้อย 50% แล้วสหกรณ์ใดที่นำแอปพลิเคชั่น มาใช้ สมาชิก 70% ให้มีแอพพลิเคชั่นใช้ เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลในสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์สามารถตรวจสอบการเงินของตนเองได้ตลอดเวลา
ด้านนายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ กล่าวว่า “พายุดีเปรสชั่นโนรู ได้ส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนประสบปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่อำเภอพรหมพิราม โดยมีสมาชิกสหกรณ์ได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีพ ผลผลิตเสียหาย และขาดรายได้ จำนวน 9 ตำบล 49 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลหนองแขม ตำบลท่าช้าง ตำบลดงประคำ ตำบลตลุกเทียม ตำบลวงฆ้อง ตำบลศรีภิรมย์ ตำบลทับยายเชียง ตำบลพรหมพิราม และตำบลวังวน ซึ่งสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ได้เล็งเห็นความสำคัญในความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ อีกทั้ง ยังมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 4 มาตรการ ได้แก่ มาตรการที่ 1 ลดดอกเบี้ยให้สมาชิกร้อยละ 0.50 ต่อปีทุกชั้นสมาชิก มาตรการที่ 2 งดคิดค่าปรับประจำปีร้อยละ 100 เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 มาตรการที่ 3 ขยายเวลาการชำระหนี้ต้นเงิน ระยะเวลา 1 ปี และมาตรการที่ 4 ด้านการส่งเสริมอาชีพตามโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 โครงการข้าวโพดหลังนา โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคให้แก่สมาชิกสหกรณ์ เพื่อมีให้รายได้เสริมนอกเหนือจากการทำนา สามารถดำรงเลี้ยงชีพต่อไปได้”
สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทางด้านปัจจัยพื้นฐาน เครื่องมือ และอุปกรณ์การตลาด จำนวน 10 รายการ มูลค่ามากกว่า 97 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลผลิตของสมาชิกสหกรณ์อย่างครบวงจร เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน พัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ และดำเนินธุรกิจให้เกิดผลกำไร ตลอดจนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ให้มีความกินดีอยู่ดีต่อไป