พิษณุโลก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรม ยกย่องเชิดชูเกียรติ จ่าสิบเอก ทวี บูรณเขตต์ ศิลปาจารย์คนแรกของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2565 และจะเข้าเฝ้า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับพระราชทานโล่ห์รางวัลในโอกาสต่อไป
เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 5 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นาย รณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในการแสดงความยินดีแก่ จ่าสิบเอก ทวี บูรณเขตต์ ที่ได้รับการประกาศจาก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นศิลปาจารย์ ประจำปี พ.ศ. 2565 ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลแรกของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้ โดยมีผู้มีเกียรติเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีด้วยมากมาย เช่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อภิลักษณ์ เกษมผลกูล ผู้แทนคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกศิลปาจารย์ , รองศาสตราจารย์ ดร. ธัญญา สังขพันธานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปีพุทธศักราช 2559 ที่ประพันธ์บทกลอนถ่อยทอดผ่านการแสดงในตำรับไทยอย่างสวยงาม , นายอนุกูล ใบไกล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรม หน้าส่วนราชการ , ดร.เปรฒฤดี ชามพูนท ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก คณะเครือข่ายสภาวัฒนธรรม
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ระบุว่า จังหวัดพิษณุโลก มีปูชนียบุคคลที่สำคัญ นั่นคือ จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ ที่มีประวัติการต่อสู้ชีวิตผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมาย ได้ไปร่ำเรียนด้านการฝีมือการเป็นช่างปั้นพระพุทธรูปตั้งแต่ยังคงรับราชการทหาร สังกัดกองทัพภาคที่ 3 จนกระทั่งได้รับการยกย่องว่ามีฝีมือการปั้นรูปเหมือน – และการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับองค์จริง ที่ประดิษฐาน ณ วิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลกมากที่สุด ได้รับการยกย่องให้เป็น “เพชรน้ำเอกแห่งวงการช่างศิลป์” และยังได้มีการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ลูกศิษย์หรือ ชาวบ้านที่สนใจในการหล่อพระมากมาย มายาวนาน
ทั้งหมดนั้นทำให้ จ่าสิบเอก ทวี บูรณเขตต์ ได้รับการเชิดชูกียรติสำคัญในปีนี้ จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม พิจารณายกย่องเชิดชูเกียรติ ให้ได้รับรางวัล “ศิลปาจารย์” จะได้รับพระราชทานโล่ห์รางวัล เงินรางวัล โดยเห็นถึงความสำคัญที่เป็นต้นแบบที่ดีงามเปียมล้นด้วยองค์ความรู้ ด้านศิลปวัฒนธรรม และยึดมั่นแนวทางการสืบสานรักษาพัฒนางานศิลปะ และวัฒนธรรมไทยที่มุ่งมั่นอุทิศตนถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เป็นสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจ่าทวี พร้อมครอบครัว จะเข้าเฝ้า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเข้ารับพระราชทานโล่ห์รางวัลในโอกาสต่อไป
ซึ่งวันนี้จึงได้จัดให้มีการแสดงความยินดีและคาวารวะแด่ท่านในวัย 90 ปี และยังขอให้ทุกคุณความดีที่ท่านได้ทำไว้ พุทธบารมีของพระพุทธชินราช กฤษดานุภาพขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ท่านก็เคยปั้นรูปเหมือนของพระองค์ท่านด้วยเหมือนกัน ได้ดลบันดาลให้ท่าน มีสุขภาพแข็งแรง สร้างสรรค์ผลงานอันงดงามสั่งสอนศิลปิน ปั้นพระพุทธรูป ต่อไปตราบนานเท่านาน พร้อมช่วยกันเปิดป้าย จ่าทวี ศิลปาจารย์คนแรกของไทย หน้าพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี จังหวัดพิษณุโลก อีกด้วย