เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2565 ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นและเสียหลักไปชนรั้วบ้านเลขที่ 22/5 หมู่ 10 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ถนนสายสระโคล่-วัดโบสถ์ ไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พิษณุโลก พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีแดง ทะเบียน นข 2368 พิษณุโลก ชนอัดก็อปอยู่กับรั้วหน้าบ้านดังกล่าวที่พังเสียหายอยู่ มีคนขับได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถบริเวณที่นั่งคนขับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้อุปกรณ์งัดประตูรถเพื่อช่วยเหลือนำออกมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งให้แพทย์รักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก ทราบชื่อต่อมาคือ นายนิพนธ์ เส็งเต๋ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 7 ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังมีเสาไฟฟ้าที่โดนรถกระบะชนจนหักโค่นล้มอยู่กลางถนน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าภูมิภาค จ.พิษณุโลก ซึ่งได้รับแจ้งเหตุได้เร่งตัดกระแสไฟฟ้าและเคลียร์ออกจากถนน เพื่อเปิดเส้นทางการจราจรให้ประชาชนใช้สัญจรไปมาได้ตามปกติโดยเร็ว ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายนิพนธ์มีอาชีพขับรถกระบะรับส่งนักเรียน วันนี้หลังจากส่งนักเรียนไปโรงเรียนแล้ว กำลังจะขับรถไปหาลูกสาวที่อยู่ในตัวเมืองพิษณุโลก พอถึงทางโค้งก่อนถึงจุดเกิดเหตุเกิดอาการวูบกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักตกถนนชนกับเสาไฟฟ้าริมทางจนหักโค่น ก่อนที่รถจะพุ่งไปชนกับประตูรั้วและกำแพงหน้าบ้านจนได้รับความเสียหาย และตนเองได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายเสือ ทอนบุรี อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 9 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งมารับจ้างทำรั้วปูนอยู่ติดกับบ้านที่ถูกรถยนต์กระบะชนและใกล้กับเสาไฟฟ้าที่ถูกชนจนหักโค่นเปิดเผยว่า ตนกำลังถ่ายลำดับวัดหัวเสาจับเหลี่ยมใส่ไม้แบบเพื่อหล่อเสารั้วอยู่ ขณะที่กำลังก้มหยิบตลับเมตรได้ยินเสียงวืบเงยหน้าขึ้นดูรถก็ผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่รถชนสายสลิงก่อนที่จะชนเสาไฟฟ้าจนหักบริเวณติดกับดินด้วยความเร็วและแรงของรถ หากไม่มีสายสลิงอาจจะชนตนก็เป็นได้