เมื่อวันที่ 11 ส.ค. น.ส.ธัญพร รักไทย อายุ 22 ปี ลูกสาวของนายสุนทร รักไทย ผู้เสียชีวิต ได้นำหลักฐานร้องเรียน กรณีพ่อของตนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่ผ่านไป 8 เดือน คดีความไม่คืบหน้านิ่งเงียบ พยายามสอบถามไปที่ตำรวจแล้ว แต่ถูกบอกปัดไม่เรียกคู่กรณีมาคุย แต่ให้ผู้เสียหายหาบุคคลที่เจ้าของรถไปเจรจาค่าเสียหาย
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านการพิมพ์ ดอทคอม ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุได้ โดยมีรถเก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว จอดอยู่ริมถนน และประตูรถฝั่งขวา บริเวณที่นั่งผู้โดยสารถูกเปิดออกมา โดยไม่ระวังรถที่วิ่งตามด้านหลัง ทำให้รถจักรยานยนต์ที่นายสุนทร รักไทย เป็นผู้ขับขี่พุ่งชนที่ประตูอย่างแรง จนร่างกระเด็นไปกลางถนนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นมีคนที่อยู่ในรถเก๋งคันดังกล่าวลงมาดูอาการ ก่อนจะมีการโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ และนำนายสุนทร ส่งโรงพยาบาลรักษาเป็นเวลา 3 วัน และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ภายหลังเกิดเหตุญาติผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี
น.ส.ธัญพร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตนและครอบครัวได้รับการช่วยเหลือจากคู่กรณีเพียงโลงศพ และอาหารว่าง 50 ชุดเท่านั้น และสินไหมทดแทนจาก พรบ.ของรถจักรยานยนต์ ส่วนเงินเยี่ยวยาอื่นๆ จากคู่กรณีไม่ได้มีการติดต่อมาเลย ต่อมามีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท พร้อมขอให้เชิญคู่กรณีมาพูดคุย แต่ทางตำรวจคนดังกล่าว บอกปัดไปว่า ตำรวจไม่สามารถเรียกคู่กรณีมาคุยได้ และยังให้ผู้เสียหายไปหาเจ้าของรถเอง ทางครอบครัวของตนไม่รู้จะทำอย่างไร พอสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี ทราบว่าส่งสำนวนให้อัยการในเดือนนี้ ถ้าส่งสำนวนแล้วจะแจ้งให้ทราบ
น.ส.ธัญพร กล่าวอีกว่า คดีผ่านมา 8 เดือนแล้ว ตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ที่ต้องสูญเสียพ่อ ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว จึงอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีให้มีความคืบหน้ามากกว่านี้ อีกทั้งค่าเสียหายจากคูกรณีทางครอบครัวก็ไม่ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าของรถอีกเลย แม้แต่ประกันรถยนต์ของรถคันดังกล่าวก็ไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะทราบว่าเจ้าของรถเป็นถึงเลขาฯ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ล่าสุดขณะนี้ได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดังกล่าว รายงานมายังตนเองว่า สำหรับคดีนี้เบื้องต้นทางตำรวจได้เรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดกระทำการโดยประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เมื่อช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา และเพิ่งจะได้รับผลตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหา ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้อัยการฟ้องศาล ส่วนเรื่องการเจรจาค่าเสียหายนั้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ คู่กรณีจะต้องไปฟ้องทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายสินไหมทนแทนต่อไป ขอยืนยันว่าตำรวจเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่อาจจะต้องรอผลตรวจทางนิติเวชประกอบสำนวนคดีด้วย อาจจะทำให้ล่าช้าไปบ้าง และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของผู้สูญเสียในครั้งนี้
