ผัวหึงโหดระแวงเมียปันใจ ยิงขู่ร้านหมูกระทะ ก่อนมาเคลียร์ใจหน้าบ้านไม่ได้  ยิงเมียสาหัส ก่อนยิงตัวตาย

 

เมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 24 ก.ค. ร.ต.อ.อำนาจ อ่อนปาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 139 ถนนไชยบุรี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ พร้อมประสานตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช และ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชายรายแรก ทราบชื่อต่อมา คือ นายนันทวัฒน์ ลาภสมทบ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/48 ถนนพญาเสือ อ.เมือง พิษณุโลก สภาพศพสวมเสื้อสีแดง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด นอนหงายจมกองเลือด ข้างตัวพบอาวุธปืนแบบลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก ห่างออกไปเล็กน้อย พบร่างหญิงสาว ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.ฐิตาภา ลาภสมทบ อายุ 34 ปี  ภรรยาของผู้ตาย ถูกอาวุธปืนขนาดเดียวกันยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด เลือดกระจายทั่วพื้นนอนหายใจรวยริน กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจจนมีชีพจรขึ้นมาแต่อาการยังสาหัส ก่อนนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพุทธชินราช ยังไม่พ้นขีดอันตรายอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

จาการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายนันทวัฒน์ ลาภสมทบ สามี และ น.ส.ฐิตาภา ลาภสมทบ  ภรรยา ก่อนหน้าเกิดเหตุได้ชักชวนเพื่อนๆ ไปนั่งที่ร้านปิ้งย่างหมูกระทะละแวกบ้าน แต่เกิดไปมีปากเสียงกันเรื่องหึงหวงขึ้น ทำให้นายนันทวัฒน์บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 2 นัด จากนั้นจึงกลับมาบ้านมาเคลียร์ปัญหากับภรรยา ที่บริเวณที่เกิดเหตุ และมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงเรื่องหึงหวง จนฝ่ายชายใช้ปืนจะจ่อยิง และภรรยายกมือไหว้ขอชีวิตแต่ก็ไม่เป็นผล จึงถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด นายนันทวัฒน์ คิดว่าภรรยาตนเอง เสียชีวิต จึงวิ่งเข้าไปในบ้านดังกล่าว จากนั้นจึงกลัวความผิดที่ก่อขึ้น จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะตัวเองจนถึงแก่ความตายดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด และทราบว่าผู้ตายกับภรรยาอยู่ด้วยกันจนมีลูก 2 คน ซึ่งคาดว่าปมเหตุสังหารโหดในครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง แต่สุดท้ายกลับเคลียร์ปัญหาตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนยิงภรรยาตนเองและยิงตัวตายตาม ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ ภรรยากลับมามีชีพพจร ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ด้วยอาการยังสาหัส ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมจะให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป.

///////////

 

แสดงความคิดเห็น