สาวพิษณุโลกกลับจากพาครอบครัวทำบุญวันเข้าพรรษาถูกรถบรรทุก 6 ล้อ เสียหลักพุ่งชนท้ายพลิกคว่ำ บาดเจ็บ 5 ราย บริเวณหลัก กม. 226 ถนนเส้นพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ (ฝั่งขาเข้าเมือง) ทางเลี้ยวเข้าซอยโรงเรียนธีรธาดา หมู่ 3 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 14 ก.ค.2565 พ.ต.ต..นพดล ไม้งาม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ เสียหลักพุ่งชนท้ายรถเก๋ง มีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณหลัก กม. 226 ถนนเส้นพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ (ฝั่งขาเข้าเมือง) ทางเลี้ยวเข้าซอยโรงเรียนธีรธาดา หมู่ 3 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน 81-3271 พิษณุโลก สภาพพลิกคว่ำตะแคงซ้ายขวางถนน จำนวน 2 ช่องจราจร ใกล้กันบริเวณซอยทางเข้าโรงเรียนธีรธาดา พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กพ 1374 พิษณุโลก สภาพด้านท้ายถูกชนอัดอย่างแรงจนยุบถึงห้องโดยสาร กระจกแตกกระจายเกลื่อน มีผู้โดยสารที่นั่งมาเป็นหญิง จำนวน 5 คน บาดเจ็บ 3 คน หนักสุดเป็นหญิงสูงอายุไหปลาร้าหัก และ ศีรษะแตก ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถบรรทุกเป็นชาย จำนวน 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช
จากการสอบถาม นายพัชระ วงคงคำ อายุ 27 ปี คนขับรถบรรทุกที่ยังอยู่ในอาการตกใจ ให้การว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุตนเองพร้อมกับเพื่อนพนักงานชายอีก 2 คน ได้เดินทางไปส่งสินค้าและกำลังจะกลับคลังสินค้า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางตรงยาว ตนขับอยู่ข้างหลังสุดและมีรถกระบะขับอยู่ข้างหน้าได้เบรกแบบกะทันหัน เนื่องจากมีรถเก๋งคันคู่กรณีเปิดไฟเลี้ยวซ้ายกำลังจะเข้าซอย จึงเป็นเหตุทำให้ตนต้องหักพวงมาลัยหลบรถกระบะคันหน้า แต่รถจะปีนขึ้นเกาะกลางถนน จึงต้องหักพวกมาลัยกลับมาจนไปเสียหลักพุ่งชนท้ายเข้ากับรถเก๋งอย่างจังเสียหลักพลิกคว่ำดังกล่าว ส่วนรถกระบะได้ขับออกไปไม่ได้จอดลงมาดูแต่อย่างใด เมื่อตั้งสติได้จึงปีนออกมานอกตัวรถและพยายามช่วยเพื่อนผู้บาดเจ็บ ก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบในที่สุด
ด้าน น.ส.สาลินี วิมลรัตน์ อายุ 31 ปี คนขับรถเก๋ง เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งพาครอบครัวและญาติๆ จำนวน 5 คน เดินทางกลับจากทำบุญวันเข้าพรรษา และกำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านจึงมองกระจกหลังสังเกตเห็นว่ามีรถบรรทุกกำลังเสียหลักพุ่งมาอย่างไว จึงร้องบอกคนในรถว่าไม่รอดแน่ๆ ก่อนจะถูกชนเข้าอย่างจังทำให้แม่ พี่สาว และ ยาย ศีรษะกระแทกอย่างแรงได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน ซึ่งยายน่าจะอาการหนักสุดเพราะไหปลาร้าหัก ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนคนขับรถบรรทุกคู่กรณีนั้นยังไม่ได้พูดคุยกันแต่อย่างใด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
นอกจากนี้ขณะเกิดเหตุยังมีกล้องวงจรปิดละแวกใกล้เคียง สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี เพื่อสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนรถบรรทุกคู่กรณีพบว่ามีประกันจะได้มีการดำเนินการในเรื่องของการตกลงชดใช้ค่าเสียหายกันต่อไป.
/////////////