คุณยายวัย 75 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ปลูกทุเรียนมานานร่วม 50 ปี ล่าสุดมาซื้อที่ดินที่ จ.พิษณุโลก จำนวน 63 ไร่ ที่บ้านดินทอง หมู่ 6 ต.ดินทอง อ.วังทอง ปลูกทุเรียนควบคู่กับมะพร้าวน้ำหวาน เพื่อช่วยปรับสภาพให้ดินเย็นขึ้น ดูแลต้นทุเรียนให้เติบโต จนสามารถทำเงินได้ระหว่างรอทุเรียนออกเต็มสวน
วันที่ 1 มิถุนายน 65 ที่สวนสุจินต์ สวนทุเรียนวังทอง บ้านดินทอง หมู่ 6 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก บนเนื้อที่ 63 ไร่ นับเป็นสวนแรกที่มีการปลูกทุเรียนควบคู่กับมะพร้าวน้ำหวาน ใช้หลักการพี่เลี้ยงน้อง พร้อมปลูกไม้ผสมผสานเป็นล็อคๆ ซึ่งบ้านดินทอง นับเป็นจุดพื้นที่ปราบเซียน เนื่องจากสภาพที่ดิน เป็นดินลูกลัง ฝนตกน้อย มีความแห้งแล้ง ไม่อำนวยต่อการปลูกทุเรียน ซ้ำอากาศร้อน ทำให้ต้องมีการปรับสภาพดินด้วยการใช้สารอินทรีย์ ชีวภาพ มูลสัตว์ เพื่อให้ดินฟูขึ้น ดินเกิดความเย็น มีความชุ่มชื้น ดินไม่แห้งแข็งอย่างที่ผ่านมา ทำให้ตลอดเวลาผ่านมา 5 ปี ทุเรียนเติบโต จนปีนี้เริ่มออกผลผลิตขายเป็นปีแรก ขณะที่มะพร้าวน้ำหอม ที่ปลูกควบคู่กันสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นปีที่ 2 แล้ว
นางสุจินต์ ชนะปทิน อายุ 75 ปี เจ้าของสวนสุจินต์ สวนทุเรียนวังทอง เปิดเผยว่า เดิมตนเองเป็นชาวสวนทุเรียนที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อกว่า 50 ปีก่อน โดยปลูกทุเรียนให้สามีทำการเกษตร ส่วนตนเองทำการเกษตรด้วยและเป็นคนทำการตลาดเองนำไปขายที่ตลาดไทย ตลอดเวลามีอาชีพทำสวนทุเรียนมาตลอดต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุที่ย้าย มาอยู่ จ.พิษณุโลก เนื่องจากลูกชายมาเจอสภาพที่ดิน ที่คล้ายกับพื้นที่ จ.นนทบุรี จึงซื้อที่ดินจำนวน 3 แปลง เนื้อที่รวม 63 ไร่ เนื่องจากบ้านดินทอง สภาพดินจะเป็นสีแดง เป็นดินลูกลัง แต่เป็นดินดี ฝนตกน้อย มีความแห้งแล้ง ไม่อำนวยต่อการปลูกทุเรียน ซ้ำอากาศร้อน ทำให้ต้องมีการปรับสภาพดินด้วยการใช้สารอินทรีย์ ชีวภาพ มูลสัตว์ เพื่อให้ดินฟูขึ้น ดินเกิดความเย็น มีความชุ่มชื้น เมื่อปลูกทุเรียนแล้วผลผลิตเนื้อทุเรียนจะอร่อย
“เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาจึงลงทุนซื้อที่ดิน แล้วปลูกทุเรียน แต่สภาพดินแล้งร้อนแบบนี้ เราจะปลูกทุเรียนอาจไม่รอด จึงต้องปลูกมะพร้าวควบคู่ เพื่อช่วยทำให้ดินเย็นขึ้น โดยมะพร้าวจะให้ผลผลิตดีกว่า เป็นรายได้หลักระหว่างรอผลผลิตทุเรียนซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี ตอนนี้มะพร้าวมีแม่ค้ามารับถึงสวน ราคาลูกละ 15-20 บาท ขายครั้งละ 400-500 ลูก/ราย ไม่ต้องออกไปขายที่ไหนมีแม่ค้ามารับถึงสวนเลย”
สำหรับทุเรียนที่ปลูก มีหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่ปลูกหลักๆ มีพันธุ์หมอนทอง พันธุ์นกหยิบ หรือหมอนทองเขียว พวงมณี หลงลับแล ชะนี ซึ่งสวนทุเรียนวังทอง ตลอด 4 ปี ต้องปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน โดยใส่มูลสัตว์ สารอินทรีย์ เพื่อปรับสภาพดิน ทำให้ทุกวันนี้มีไส้เดือน ดินเริ่มซุย ดินไม่แข็งอย่างที่ผ่านมา สำหรับทุเรียนเด่นๆที่สวน คือ พันธุ์นกหยิบ มีลักษณะคล้ายหมอนทองเปลือกเขียว เนื้อแห้ง มีกลิ่นอ่อน รสหวานไม่จัดมาก ทำให้คนผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนนิยมทาน ส่วนพันธุ์พวงมณี เป็นทุเรียนพันธุ์เล็ก เนื้อน้อย แต่เมื่อปลูกที่สวนปรากฏว่าเนื้อหนา เหนียวเนียน ลูกเล็กคนก็นิยมซื้อมากเช่นกัน
นางสุจิตน์ กล่าวว่า สวนเราดูแลทุเรียนด้วยวิธีธรรมชาติ แทบไม่ได้ใช้สารเคมี อาจมีใช้บ้างก็น้อยมากแก้ปัญหาเฉพาะจุด แต่หลักๆ จะใช้สารอินทรีย์ สารชีวภาพ 100 % ไตรโคเนอมา น้ำหมักไล่แมลง ทำให้ลูกค้ามั่นใจ ในการมาซื้อทุเรียนจากสวน ที่สำคัญเนื้อทุเรียนที่นี่อร่อย เมื่อเทียบกับที่อื่น โดยปีนี้เป็นปีแรกที่ทุเรียนออกผลผลิต ลูกค้าสามารถโทรศัพท์ สั่งซื้อได้ที่ 094-420-7997 หรือที่เพจสวนสุจินต์ สวนทุเรียนวังทอง
……………………………………………