พระพรหมวชิรเจดีย์ มรณภาพด้วยอย่างสงบ ที่ รพ.พุทธชินราช

วันนี้( 7 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากพระพรหมวชิรเจดีย์ฯ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค  5 ได้เข้ารับการรักษา ที่หอผู้ป่วยหนักวิกฤต (ICU) โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยมีอาการเหนื่อย ฉันอาหารได้ลดลง จากภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือด ร่วมกับมีภาวะเลือดเป็นกรด และการทำงานของไตลดลง ทีมคณะแพทย์โรงพยาบาลพุทธชินราช ให้การรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจและการฟอกไต ร่วมกับการให้ยาปฏิชีวนะ

ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ทางโรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ออกประกาศอาการพระพรหมวชิรเจดีย์ฯ  ว่าสัญญาณชีพยังไม่คงที่ ต้องใช้ยากระตุ้นหัวใจ และเครื่องช่วยหายใจ ,มีภาวะไตทำงานน้อย ไม่มีปีสสาวะอก ต้องฟอกไตด้วยเครื่องฟอกไตชนิดต่อเนื่อง ,ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด มีภาวะเลือดเป็นกรดเพิ่มมากขึ้น ยังคงให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ทางหลอดเลือดดำต่อเนื่อง และมีภาวะซีดและเกร็ดเลือดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด จำเป็นต้องได้รับเลือดและเกร็ดเลือดทดแทน จนกระทั่งวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 เวลา 05.00 น. อาการโดยรวมเริ่มทรุดลง สัญญาณชีพไม่คงที่ระดับออกซิเจนในเลือดลดต่ำลง ทีมคณะแพทย์ผู้รักษาได้ทำการเพิ่มยากระตุ้นหัวใจหลายชนิด แต่พบว่าไม่ตอบสนองต่อการรักษา พระพรหมวชิรเจดีย์ฯ มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 12.02 น.

สำหรับพระพรหมวชิรเจดีย์   ฉายา  ฐานุตฺตโร  อายุ 85 พรรษา 65 วิทยฐานะ ป.ธ.๗  นักธรรมเอก  เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 5 เดิมชื่อ บำรุง  นามสกุล  มากก้อน  เกิดเมื่อวันที่  23  กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2480  ตรงกับวันพุธ    แรม 8 ค่ำ เดือน 3  ปีฉลู บ้านเลขที่  36  หมู่ที่ ๓  ตำบลมะขามสูง  อำเภอเมือง  จังหวัดพิษณุโลก    บรรพชาเมื่ออายุ 15 ปี วันที่  2  ธันวาคม  พ.ศ. 2495  โดย ในปี พ.ศ. 2517   เป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ,พ.ศ. 2518 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. 2531   เป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปี พ.ศ. 2533  เป็นรองเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ในปีพ.ศ. 2534   เป็นเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร  จนถึงปัจจุบัน   และในพ.ศ. 2541   เป็นรองเจ้าคณะภาค 5  พ.ศ. 2564    เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 5

ส่วนสมณศักดิ์ พ.ศ. 2521 เป็นพระราชาคณะ ชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระศรีรัตนมุนี  พ.ศ.2535เป็นพระราชาคณะ  ชั้นราช ในราชทินนามที่พระราชรัตนมุนี ,พ.ศ2542เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพ ในราชทินนามที่  พระเทพรัตกวี ในปีพ.ศ. 2548เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรม     ในราชทินนามที่ พระธรรมเสนานุวัตร,ปี 2562เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพุทธิวงศมุนี และในพ.ศ. 2565เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ “พระพรหมวชิรเจดีย์”

////////

 

แสดงความคิดเห็น