หนุ่มขับแกร๊ปโดนคนสติไม่ดีเอาขวดตีหัว


เจ็บตัวแบบ งงๆ หนุ่มขับแกร๊ปนั่งรอออเดอร์หน้าร้านส้มตำ จู่ๆ โดนชายสติไม่ดีเอาขวดตีหัวแล้วจากไป ทั้งๆ ที่ก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไปแจ้งความตำรวจบอกร้อยเวรติดชันสูตร 3 ศพ รอนานให้ไปหาหมอก่อนค่อยมาแจ้งความวันหลัง
วันที่ 17 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Chor Rhat ได้นำคลิปจากล้องวงจรปิดความยาวประมาณ 16 วินาที ช่วงเวลาที่แฟนหนุ่มขับแกร๊ปโดนคนสติไม่ดีเอาขวดตีหัวได้รับบาดเจ็บ โพสพร้อมข้อความว่า คนบ้ามั้ยไม่รู้แหละ แต่จงใจขนาดนี้ 😡😡😡😡 ใครเจอบอกมั่งนะ จากโพสดังกล่าวมีคนให้ความสนใจมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
จากการติดต่อสอบถามทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายศุณัฐกิจ อุดมสุข อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/1 ม.3 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก แกร๊ปฟู๊ดผู้เสียหาย บอกว่าวันที่เกิดเหตุ คือค่ำๆของวันที่ 15 มีนาคม 2565 ช่วงเวลาทุ่มเศษๆ ตนไปรับออเดอร์ตามปกติ ระหว่างนั่งคร่อมรถรออยู่ที่ร้าน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงวิ้งๆๆ อยู่ในหัว ทีแรกตนก็คิดว่าอะไรหล่นใส่หัว แต่ตอนพี่เจ้าของร้านส้มตำออกมาบอกว่าชายคนเก็บของเก่าเป็นคนมาตีเรานะ ก็ถามว่าเราได้ไปทำอะไรเขาไหม หรือไปขี่รถปาดหน้าเขาหรือเปล่า ผมก็ตอบไปว่าไม่นะ ผมก็ขับมาปกติแล้วก็มานั่งรอออเดอร์เลย เพียงแต่เราไม่ได้ระวังตัวเลย
หลังเกิดเหตุหัวไม่แตกนะแต่มันมึนๆ งงๆ ปนตกใจด้วย พี่เจ้าของร้านส้มตำเลยให้โทรแจ้งตำรวจ ผมก็โทร 191 ก็เล่าให้ตำรวจฟังว่าเราโดนตีหัว เราขับแกร๊ป โดนคนเก็บของเก่าตีหัวบอกรูปพรรณสัณฐานไปให้ตำรวจรับทราบ ตำรวจก็ถามกลับมาว่าเป็นคนสติไม่ดีหรือคนบ้ารึเปล่า ตนจึงพูดย้อนกลับไปว่าถ้างั้นก็เท่ากับว่าตนเองโดนตีหัวฟรีใช่ไหม แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีตำรวจสายตรวจมาดูที่เกิดเหตุเลย จากนั้นตนจึงไปส่งอาหารให้ลูกค้าก่อนแล้วไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ทั้งๆ ที่ยังเจ็บหัวอยู่ ตำรวจก็แนะนำให้ไปหาหมอก่อน เพราะตอนนี้ร้อยเวรไม่ว่างเนื่องจากติดไปเหตุชันสูตรศพ 3 ศพ เพราะยังไงก็ต้องรอนานมาก แต่ก็ให้ชื่อกับเบอร์โทรเอาไว้ จนสุดท้ายก็ไม่มีตำรวจติดต่อกลับมาเลย ตอนนี้รู้สึกเสียความรู้สึกกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก จึงอยากฝากเตือนภัยสังคมถ้าหากวันนั้นไม่ใช่ขวดแต่เป็นของมีคมเช่นมีด ตนคงไม่มีโอกาสได้มานั่งคุยแบบนี้แล้ว คงจะบาดเจ็บสาหัสหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลสติไม่สมประกอบจริงหรือไม่ เพราะจะได้เอาตัวไปรักษาอย่างถูกต้องและไม่เป็นอันตรายกับสังคมหรือประชาชนคนอื่นๆ อีกด้วย.
ด้านคุณต่าย อายุ 35 ปี เจ้าของร้านตําแซ่บยำนัว บอกว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ช่วงเวลาประมาณ 19.41 น. ซึ่งตอนนั้นแกร๊ปฟู๊ด(ผู้เสียหาย) มารอรับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งส้มตำมาตามปกติระหว่างนั้นแกร๊ปก็นั่งคร่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์หน้าร้าน ตนเองก็กำลังง่วนอยู่กับการตำส้มตำตามออเดอร์ จู่ๆ เสียงแกร๊ปฟู๊ดก็ร้องโอ๊ยอย่างดัง ตนก็วิ่งมาดูแกร๊ปก็บอกว่าโดนชายคนดังกล่าวเอาขวดตีหัว ตนก็รีบวิ่งไปถามว่าตีเขาทำไมๆ ชายคนนั้นก็ไม่พูดอะไรปั่นจักรยานออกไปเลย ตนก็เลยไปเปิดกล้องวงจรปิดดู เผื่อแกร๊ปฟู๊ดจะเอาไปเป็นหลักฐานเขาแจ้งความ ส่วนชายคนดังกล่าวตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใครหรืออยู่ที่ไหน แต่มักจะเห็นเขาปั่นจักรยานผ่านเส้นนี้ประจำ เขาเหมือนจะเก็บขวดหรือเก็บของเก่าขาย ไม่รู้ว่าสติดีหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่ามาทำแบบนี้ มันน่ากลัว มันดูไม่ปลอดภัยเลย

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตามที่เป็นข่าว ที่พนักงานส่งอาหารหรือไรเดอร์ถูกทำร้ายร่างกายด้วยขวดหรือของแข็งที่บริเวณตลาดผัก ถนนธรรมบูชา ซึ่งตอนนี้ทางผู้เสียหายได้ไปพบแพทย์ จึงต้องรอผลวินิจฉัย อีกทีว่าบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน เพื่อมาดูในเรื่องการตั้งข้อหา ซึ่งวันนี้ได้นัดผู้เสียหายมาสอบปากคำ ดูพฤติกรรม เกิดเหตุอย่างไร และทำร้ายร่างกายได้ย่างไร ตอนนี้ก็ได้ให้ทางชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบว่าคนที่ทำร้ายร่างการไรเดอร์เป็นใคร สำหรับประเด็นว่าผู้ต้องเป็นคนบ้าหรือคนสติไม่ดีหรือไม่ ก็ต้องรอให้ทางแพทย์วินิจฉัยก่อน ถ้าพบว่าป่วยทางจิตจริงก็ส่งไปรักษาตัวแล้วค่อยนำกลับมารับโทษ ส่วนความหนักเบาของข้อหาก็ต้องรอผลว่าบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน ส่วนตามคลิปที่ผู้เสียหายให้สัมภาษณ์ว่าวันนั้นเข้าแจ้งความแล้วร้อยเวรไม่อยู่นั้น ยืนยันว่าวันนั้นร้อยเวรติดเหตุชันสูตรศพจริง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมือง เห็นอาการของไรเดอร์ยังปวดหัวและมึนๆ จึงแนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนเพราะไม่ทราบว่าได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหนเป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บก่อน แล้วค่อยเข้ามาแจ้งความ

ขณะที่ในเวลา 14.30 น. นายศุณัฐกิจ อุดมสุข อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/1 ม.3 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางมาพบร้อยเวรเพื่อให้ปากคำ ยืนยันว่าไม่เคยพบตัวชายที่ก่อเหตุมาก่อน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือปาดหน้าใครมาก่อน คุยกับในกลุ่มไรเดอร์ด้วยกันก็ไม่เคยมีใครเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนเรื่องของบาดแผลแพทย์ได้บอกว่าไม่อันตรายมาก ไม่ร้าวถึงกะโหลก แต่ยังคงบวมนูนอยู่ ส่วนเรื่องทางคดีตนก็จะให้ปากคำตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนชายที่ก่อเหตุจะเป็นคนสติดีหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่ถ้าหากว่าเป็นคนป่วยทางจิตหรือสติไม่ดีจริงๆ ก็ควรจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปรักษาดีกว่า ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนนี้กับคนอื่นอีก หรือไม่หากวันนั้นไม่ใช่ขวดแต่เป็นอาวุธมีคมคงได้รับบาดเจ็บหนักกว่านี้แน่นอน
/////////////////////////

 

แสดงความคิดเห็น