วันที่ 18 มกราคม 2565 ผู้โชคดี ถูกรางวัลที่ 1 สองพี่น้อง นางสาวยุพา แสงทับทิม อายุ 38 ปีและนายสมปอง แสงทับทิม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ 3 ตำบลอรัญญิก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก หรือ ในหมู่บ้านมั่นคงหลังวัดโคกช้าง ได้เข้ากราบนมัสการพระครูอมรสุตกิจ หรือหลวงตามหานิยม เจ้าอาวาสวัดโคกช้าง หรือ วัดเทพกุญชร ม.3 ต.อรัญญิก หลังจากไปขึ้นเงินรางวัลจากการถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 17 มกราคม 2565 ที่ธนาคารออมสินจังหวัดพิษณุโลกเรียบร้อยแล้ว
นางสาวยุพา แสงทับทิม อายุ 38 ปี อาชีพเปิดร้านขายของชำที่บ้านในหมู่บ้านมั่นคงเฟสสอง เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ถูกรางวัลที่ 1 ขณะนี้ตนได้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัลกับธนาคารออมสินเรียบร้อยแล้ว จะนำเงิน ไว้ใช้แบ่งปันในครอบครัวและพี่น้องพร้อมกับดูแลพ่อนายป้อม แสงทับทิม อายุ 65 ปี ที่เหลือเป็นเสาหลักของครอบครัวคนเดียว หลังจากก่อนหน้านี้ตนเพิ่งเสียแม่นางบุญมี แสงทับทิม อายุ 59 ปี จากโรคเส้นโลหิตในสมองแตก และทำการเผาศพไปเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา โดยตนขอโชคจากแม่ว่าขอถูกรางวัลบ้างเป็นรางวัลเล็กๆก็ยังดีได้เงินสัก 40,000-50,000 บาท บาทก็ยังดี จะได้ใช้ดูแลพ่ออายุ 65 ปี ซื้อเลขท้ายตามอายุแม่ 59 ปี จากผู้ที่มาขายรางวัลให้ จำนวน 6 ใบปรากฏว่ามีอยู่ 3 ใบถูกรางวัล 3 ตัวหน้าและอีก 1 ใบถูกรางวัลที่ 1 ไม่คิดว่าขอพรจากแม่เล็กๆน้อยๆ แม่จะให้โชคก้อนใหญ่เลย
นอกจากนี้ในวันเผาศพแม่วันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมาที่วัดโคกช้าง เจ้าอาวาสวัดโคกช้าง หลวงตามหานิยมได้มาขึ้นเทศน์ก่อนทำการฌาปนกิจ ซึ่งปกติแล้วเจ้าอาวาสจะไม่ค่อยมาขึ้นเทศน์ในงานฌาปนกิจมากนัก จะให้พระลูกวัดทำการขึ้นเทศน์มากกว่า แต่ด้วยแม่ตนผู้เสียชีวิตได้มาทำบุญที่วัดเป็นประจำหลังจากเทศน์เสร็จแล้ว หลวงตามหานิยมก็ได้พูดหยอกๆกับญาติว่า โยมลองคิดกันดูนะแม่เสียตั้งศพสวดวันที่ 4 มกราคม เผาวันที่ 9 มกราคม รวมตั้งศพ 5 คืน และเผาวันที่ 9 มกราคม ก็แล้วแต่บุญแต่โชคของโยมนะ ทั้งอายุแม่และเลขในงานฌาปนกิจจากดวงตา ทำให้ตน หาซื้อเลขท้าย 59 และได้มา 6 ใบ
ทั้งสองพี่น้อง หลังจาก ขอบคุณหลวงตามหานิยมและปรึกษาถึงการทำโกศทองให้กับแม่ผู้วายชนม์ รวมถึงเตรียมเงินร่วมทำบุญจำนวนหนึ่งสำหรับให้วัดโคกช้างที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอุโบสถและพระพิฆเนศองค์มหึมา พร้อมกับนี้ ได้เข้าไปกราบขอพร ไอ้ไข่ ที่วัดได้นำมาประดิษฐานไว้ได้ 1 ปีแล้ว
พระครูอมรสุตกิจ หรือหลวงตามหานิยมเจ้าอาวาสวัดโคกช้างหรือวัดเทพกุญชร เปิดเผยว่าโยมผู้เสียชีวิต เป็นชาวบ้านพื้นถิ่นในหมู่ 3 เดิมประกอบอาชีพ เปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่ภายในบริเวณวัดและมีบ้านอยู่หลังวัดในหมู่บ้านมั่นคง เป็นคนที่มาทำบุญที่วัดตามปกติ ในทุก ๆ วันพระ จะนำโจ๊กมาถวายอาตมาเป็นประจำทุกเช้า ก่อนขึ้นสวดมนต์ แต่ปรากฏว่าโชคร้ายมีปัญหาเรื่องเส้นเลือดในสมองแตกและทำให้เสียชีวิตลูกๆจึงนำร่างแม่มาบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจที่วัดโคกช้าง ซึ่งปกติแล้วอาตมาจะไม่ค่อยได้ขึ้นเทศน์ในงานฌาปนกิจจะปล่อยให้เป็นกิจนิมนต์ของพระลูกวัด แต่ด้วยเป็นโยมที่มาทำบุญเป็นประจำลูกสาวจึงมาขอร้องอาตมาให้ขึ้นเทศน์ในวันนั้นอาตมาจึงไปขึ้นเทศน์ หลังจากขึ้นเทศน์เสร็จเรียบร้อยแล้วได้พูดกับครอบครัวและผู้มาร่วมงานว่า โยมผู้เสียชีวิต เป็นโยมที่มาทำบุญกับวัดเป็นประจำ น่าจะให้โชคได้บ้าง โยมเสียชีวิตมาตั้งศพที่วัดเป็นเวลา 5 คืน และทำการฌาปนกิจ จำนวน 9 วัน และแม่ก็อายุ 59 ปี เลขสวยนะ และปรากฏว่าลูกสาวของผู้เสียชีวิต ได้ถูกรางวัลที่ 1 ก็ถือเป็นโชคเป็นบุญวาสนา เพราะการถูกรางวัลใหญ่นั้น ขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของแต่ละคน เหมือนกับการฝากเงินธนาคารถ้าไม่ฝากเลย ก็จะไม่ได้ผลไม่ได้ดอกเบี้ย เช่นกัน การทำบุญการทำกุศล เมื่อทำบุญก็อาจจะได้ผลตอบแทนบ้าง