เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้ควบคุมตัว นายอนุสรณ์ หรือ เก่ง สุขดี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/3 ม.10 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังก่อเหตุตะเวนลักทรัพย์ตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ หลายแห่ง
โดยในช่วงตั้งแต่เดือน ธ.ค.2564 ถึงปัจจุบัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายตะเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์และลักทรัพย์สิน ตามบ้านเรือน ร้านค้า หอพัก ร้านกาแฟในพื้นที่ จำนวนหลายราย สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ทาง พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดตามเส้นทางภายในพื้นที่ ของ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อหาเบาะแสคนร้าย จนกระทั่งวันที่10 ม.ค.65 เวลาประมาณ 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบเห็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110ไอ สีน้ำตาล–ดำ หมายเลขทะเบียน 1กฉ 2853 พิษณุโลก ซึ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายไว้ จอดอยู่บริเวณริม ถ.ประชาอุทิศ ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงได้เฝ้าสังเกตในบริเวณใกล้เคียงรถคันดังกล่าว พบชายมีลักษณะตำหนิรูปพรรณ การแต่งกายคล้ายผู้ก่อเหตุที่ผ่านมา นั่งดื่มสุราอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัว สอบถามชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายอนุสรณ์ หรือ เก่ง สุขดี อายุ 19 ปี 49/3 ม.10 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ซึ่งนายอนุสรณ์ฯ ได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ ว่าเมื่อวันที่ 3 ม.ค.65 เวลาประมาณ 04.00 น. นายอนุสรณ์ฯ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อ ฮอนด้า รุ่นดรีม สีแดง ทะเบียน ฉ 7480 อุทัยธานี ( ซึ่งเป็นรถที่ลักมา ) ออกตระเวนลักทรัพย์ในพื้นเขต อ.เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งขับขี่มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง พบเห็นรถจักรยานยนต์ของกลางจอดอยู่บริเวณข้างร้านเสียบคากุญแจทิ้งไว้ นายอนุสรณ์ฯ เกิดความอยากได้เนื่องจากสภาพรถใหม่กว่ารถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขี่อยู่ จึงได้เข้าไปลักรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และได้จอดรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขี่มาก่อเหตุทิ้งไว้ แล้วหลบหนีไป จากนั้น นายอนุสรณ์ฯ ได้ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางที่ลักมาได้ขับขี่ตระเวนลักทรัพย์ ภายในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก จำนวนหลายแห่ง จนกระทั่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมด้วยของกลาง
นอกจากนี้ทางนายอนุสรณ์ฯ ได้ให้การรับสารภาพเพิ่มเติมว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่อีก จำนวน 9 ราย ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 03.30 น. ได้เข้าไปงัดตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้าที่อยู่ชั้นที่ 1 ที่อยู่ภายในหอพักผกาวรรณ ถ.พญาเสือ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ได้เงินเหรียญบาทรวมกันประมาณ 800 บาท
2. เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 21.00น. ร้านกาแฟ รับเบอที เลขที่ 138/5 ถ.ประชาอุทิศ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เอาคีมตัดเหล็กที่อยู่หน้าร้านดังกล่าว งัดตู้เงินที่อยู่หน้าร้าน ได้เงินสดไปจำนวนประมาณ 300 – 400 บาท
3. เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 21.00 – 22.00 น. ลักตู้บริจาคภายในศาลพระพิฆเนศ หน้าวัดจันทร์ตะวันตก ได้เงินสดไปประมาณ 600 บาท
4. เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 04.00 น. ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนต้า รุ่นเวฟ สีน้ำตาลดำ ทะเบียน 1กฉ – 2853 พิษณุโลก ซึ่งได้คากุญแจอยู่ที่รถ บริเวณบ้านเลขที่ 12/27 ม.7 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
5. เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. ลักทรัพย์ภายในร้านกาแฟสตอรี่ คาเฟ่ ม.10 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก โดยใช้ก้อนหินทุบผนังร้านเข้าไปลักของภายในร้าน ได้เงินสดไปประมาณ 350 บาท
6. เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 05.00 น. ลักทรัพย์ร้านเรสคาบา ถ.สีหราชเดโชชัย ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ใช้ก้อนหินทุบแผ่นประตูยิบซั่มฝั่งห้องครัวเข้าไป ได้โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ oppo สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง
7. เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 01.00 น. ลักทรัพย์ ร้านส้มตำน้ำแตก ถ.ไชยานุภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ได้งัดบานประตูเมทัลชีท ของร้านเข้าไป ได้เงินเหรียญ และธนบัตรไทย รวมกัน จำนวนประมาณ 2,000 บาท
8. เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 00.30 น. ลักทรัพย์ ร้านส้มตำน้ำแตก ถ.ไชยานุภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ได้งัดบานประตูเมทัลชีท แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในร้านได้ เนื่องจากร้านได้ทำประตูแน่นหนาขึ้นจากเดิม
9. เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 03.00 น. ลักทรัพย์ ร้านส้มตำไม่ทราบชื่อ ริม ถ.สิงหวัฒน์ ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก โดยเข้าไปหยิบเงินเหรียญประมาณ 300 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายอนุสรณ์ฯ ว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” จากนั้นได้ดำนินการควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.