ชาวบ้าน 3 อำเภอ จ.พิษณุโลก กว่า 400 คน เดินทางมาทวงถามเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ขอให้ปล่อยน้ำทำนาและทำการเกษตร หลังล่วงเลยเวลามานาน โดยทางชลประทางชี้แจงว่ายังติดที่ศาลปกครอง และมีการจัดสรรน้ำให้ 14 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งจะมีการประชุมตัวแทนชาวบ้านในวันที่ 13 มกราคมนี้อีกครั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 มกราคม 65 ที่บริเวณสันเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ได้มีชาวบ้าน จาก อ.วัดโบสถ์ อ.พรหมพิรามและ อ.เมือง จำนวนกว่า 400 คน นำโดย นายสถาพร ปานมี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำน้ำพระทัยจากในหลวง โครงการเขื่อนแควน้อยฝั่งขวา ได้มารวมตัวติดตามทวงถามความคืบหน้าการขอน้ำจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน เพื่อทำนาปรังปี 2564/65 และทำการเกษตรไม่ได้ผลผลิตได้รับความเสียหาย หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้มีการรวมตัวประท้วงเรียกร้องขอน้ำมาแล้ว โดยมี ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ จันทวงศ์ นายอำเภอวัดโบสถ์ กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดโบสถ์ กว่า 20 นาย เดินทางมาดูแลสถานการณ์การชุมนุมให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
นายสถาพร ปานมี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำน้ำพระทัยจากในหลวง โครงการเขื่อนแควน้อยฝั่งขวา เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 และ วันที่ 13 ธ.ค. 64 กลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ได้ยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์การใช้น้ำจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน เพื่อใช้ในการเพาะปลูกข้าวนาปรังพื้นที่ 60,000ไร่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่รอบเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาณน้ำจำนวน 80 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่เดือน ธ.ค.64 – มี.ค.65 แต่จนถึงปัจจุบันทางกลุ่มฯ ยังไม่ได้รับคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงรวมตัวกันมาติดตามความคืบหน้าและเรียกร้องขอให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน ปล่อยน้ำให้พื้นที่เพาะปลูก 12 เปอร์เซ็นต์ทุกปี และระยะยาวขอให้ปล่อยน้ำให้พื้นที่เพาะปลูก 12-15 เปอร์เซ็นต์
นายวิชากร จองพิพัฒนพงษ์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เป็นตัวแทน ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน ได้ชี้แจงกับประชาชนว่า ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน ติดราชการ เดินทางไปประสานงานกับ สำนักงานชลประทานที่ 3 เรื่องการขอใช้น้ำ ได้ผลประการใดยังไม่ทราบ จึงขอรับเรื่องไว้และจะนำเรียนให้ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดนทราบเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน โดยเบื้องต้นผลจากการทำหนังสือและร้องไปยังศาลปกครองที่ขอใช้น้ำ จำนวน 80 ล้านลูกบาศก์เมตร เรื่องยังติดอยู่ที่ศาลปกครอง ต้องรอให้ศาลวินิฉัยตัดสินก่อนว่าจะให้ปล่อยน้ำได้หรือไม่ ส่วนที่จะมีการปล่อยน้ำให้จำนวน 14 ล้าน ลบ.ม. จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการ ซึ่งในเรื่องนี้ทางเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนได้เชิญผู้เกี่ยวข้องและตัวแทนชาวบ้านประชุมเพื่อบริหารจัดการน้ำก้อนนี้ ในวันที่ 13 ม.ค.65
ส่วนที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ทางเขื่อนเปิดให้มีการท่องเที่ยวเขื่อนแควน้อยได้นั้น ในเรื่องนี้ทางเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ชี้แจงว่าการปิดเขื่อนห้ามท่องเที่ยว สาเหตุมาจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ทำให้จำเป็นต้องห้ามการท่องเที่ยว ซึ่งทางเขื่อนฯจะเริ่มเปิดให้ประชาชนท่องเที่ยวได้ แต่ต้องอยู่ในมาตรการการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัดต่อไป ซึ่งหลังจากีการชี้แจงชาวบ้านต่างพอใจแยกย้ายกลับเวลาเที่ยงวันเดียวกันนี้