เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีครอบครัวหนึ่ง ภายในบ้านอยู่ด้วยกัน จำนวน 5 คน แต่สภาพบ้านคล้ายกระท่อมปลายนา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 8 ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก พบนางกาญจนา ศิริสุข อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน
สอบถามนางกาญจนา เปิดเผยว่า ครอบครัวของตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ภายใน บ้านอยู่ด้วยกับ 5 คน ส่วนสามีจะออไปหาปูหาปลา ส่วนตนเองรับจ้างเลี้ยงและให้ อาหารหมู ได้วันละ 200 บาท ถ้าใครมาจ้างไปทำงานอย่างอื่นก็ไป เนื่องจากช่วงนี้ งานรับจ้างน้อยมาก เพราะโควิดระบาดไม่มีใครมาจ้างให้ไปทำงาน นอกจากนั้นยังมี ลูกอีก 3 คน คนโต ชื่อน.ส.มัลลิกา อยู่เพชร อายุ 21 ปี กำลังเรียนอยู่ ปี 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนคนที่ 2 ชื่อ ด.ช.ชลากร อยู่เพชร อายุ 10 ขวบ และคนที่ 3 ชื่อด.ญ.ชนกเนตร อยู่เพชร อายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ที่ โรงเรียนบ้านท่ากระดุน ส่วนบ้านพักอาศัยสร้างมานานแล้ว อยู่ตามสภาพที่เห็น เพราะไม่มีเงินทุนที่จะทำให้ดีกว่านี้ เงินทองที่หามาได้แต่ละวันต้องเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว และที่สำคัญต้องเก็บเอาไว้เป็นค่าเล่าเรียนให้กับลูกๆ
จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่า ครอบครัวของนางกาญจนาเป็นคนขยัน รับจ้างเลี้ยงให้อาหารหมู ส่วนสามีไปหาอาหารตามท้องไร่ท้องนา หรือไม่ก็รับจ้างตัดหญ้าให้วัวควาย แม้ว่าบ้านที่พักอาศัยจะไม่ใหญ่โต สภาพที่เห็นเหมือนกระท่อมปลายนา แต่ทั้งหมดอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะลูกสาวของนางกาญจนาเป็นเด็กที่เรียนเก่ง ส่วนค่าเทอมต้องกู้ กยศ. มาเรียน และลูกทุกคนของนางกาญจนาเรียนเก่งมาก ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจในลูกทั้ง 3 คน
วันเดียวกัน ทางผู้นำชุมชุน ได้ประสานกองพลพัฒนาที่ 3 เพื่อขอการสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวของนางกาญจนา โดยทาง พล.ต.ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผู้บัญชาการ กองพลพัฒนาที่ 3 ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบด้วยตัวเอง เพื่อจะหาแนวในการช่วยเหลือครอบครัวของนางกาญจนา พบว่าบ้านที่พักอาศัยไม่มีฝาไม่มีประตูหน้าต่าง หลังด้านหน้ามุงด้วยหญ้าคา จนผุพังไม่สามารถกันแดดกันฝนได้เลย ส่วนตัวบ้านยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร สภาพตัวบ้านโล่งๆทะลุถึงกันหมด บริเวณที่นอน ที่นั่งเล่น หรือครัวทำอาหารอยู่ติดๆกัน
ทั้งนี้ทาง ผบ.กองพลพัฒนาที่ 3 ได้มอบสิ่งของตะกร้าปันสุข นอกจากนั้นจะจัดหาอุปกรณ์ ในการปรับปรุงตัวบ้าน และเปลี่ยนหลังคาโครงสร้างให้มั่นคง โดยจะจัดชุดทหารช่างเข้ามาช่วยเหลือต่อไป