จากกรณี พ.ต.ท.ยสพนต์ พวงทอง อายุ 48 ปี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ก่อเหตุไปทำร้ายร่างกายชาวบ้านและถืออาวุธปืนยาวข่มขู่สร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร โดยมีชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายคลิปขณะก่อเหตุนำไปเผยแพร่ลงสื่อออนไลน์ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นกระแสร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดี พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้ทางสำนักงานจเรตำรวจได้สั่งกำชับให้เร่งดำเนินการถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นคดีสำคัญและประชาชนให้ความสนใจต้องตอบคำถามสังคมได้ โดยทางคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่สั่งตั้งขึ้นมานั้น ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณา และเดินทางลงพื้นที่ไปสอบผู้เสียหายแล้วที่ อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร พร้อมจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นตนได้สอบถาม พ.ต.ท.ยสพนต์ พวงทอง ผู้ก่อเหตุ หลังจากมีคำสั่งย้ายให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก อ้างว่ามีความเครียดจากเรื่องส่วนตัวและไม่ได้ดื่มสุราหรือเมาสุราตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการเครียดที่เป็นอยู่ แต่ก็ยังทำงานได้ตามปกติทุกอย่าง โดยทางคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงจะเร่งสรุปผลภายในวันที่ 27 ก.ย. นี้ ว่ามีความผิดทางวินัยเข้าข่ายข้อใดบ้าง ส่วนอาวุธปืนที่นำไปก่อเหตุนั้นเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่มอบให้ไว้ประจำสถานีตำรวจ สามารถเบิกออกมาใช้ปฏิบัติราชการหรือเอาไว้ป้องกันเหตุในพื้นที่ได้ ส่วนความประพฤติส่วนตัวนั้นเท่าที่ผ่านมาพบว่ามาปฏิบัติราชการตามปกติ ในตำแหน่งกลุ่มงานสอบสวนประจำ ภ.จว.พิษณุโลก ก่อนจะมีคำสั่งให้ไปประจำตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว จนมาก่อเหตุขึ้นดังกล่าว โดยทางคณะกรรมการสืบสวนข้อแท็จ ภ.จว.พิษณุโลก ต้นสังกัด ก็จะดำเนินการในเรื่องของความผิดทางวินัย ส่วนเรื่องของคดีอาญาทาง ภ.จว.กำแพงเพชร จะเป็นผู้รับผิดชอบในคดี ตนขอยืนยันว่าไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นนโยบายของ ผบ.ตร. หากตำรวจกระทำความผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษ เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน.
/////////////////////////