เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายพายัพ ขอสงวนนามสกุล อายุ 56 ปี ชาวบ้าน ใน ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นางชฑรัช วงษ์ยอด ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวังทอง ได้พา ด.ญ.ส้ม นามสมมติ อายุ 9 ปี เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก กรณีถูกเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันกระทำชำเราหลานสาวซึ่งเป็นเด็กพิเศษถึง 2 ครั้ง เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงปี 2363 ที่ผ่านมา โดยทางครอบครัวได้ไปแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ที่ สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก แต่คู่กรณีให้การปฏิเสธและขอสู้คดีประกันตัวออกมา จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและหลานสาวถูกคู่กรณีพูดจาข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิต จนเด็กมีอาการหวาดกลัวและระแวงอยู่ตลอดเวลา
ด้าน นางชฑรัช วงษ์ยอด ผอ.โรงเรียน ฯ เปิดเผยว่า ด.ญ.ส้ม เป็นเด็กพิเศษกำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 มีพัฒนาการช้ากว่าเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน และป่วยบ่อย ระยะหลังคุณครูสังเกตเห็นว่ามีอาการซึมไม่ร่าเริง เมื่อครูสอบถามเด็กก็บอกว่าปวดท้องและเจ็บแสบอวัยวะเพศ ซึ่งทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงสอบถามเด็กเบื้องต้น สุดท้ายเด็กก็ยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังจนเรื่องแดงขึ้น ก่อนจะปรึกษากับผู้ปกครองเพื่อพาเด็กไปตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลสากเหล็ก จ.พิจิตร เป็นเวลา 1 คืน โดยแพทย์ผู้ตรวจแจ้งว่าพบร่องรอยของการถูกกระทำชำเราและถูกล่วงละเมิดทางเพศ หลังจากนั้นได้ประสานงานกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 และ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ที่ สภ.วังทอง แต่ผู้ถูกกล่าวหายังให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล ทางครอบครัวจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและเรื่องจะเงียบ จึงต้องเดินทางมาร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลกในที่สุด
ด้าน นายพายัพ ขอสงวนนามสกุล อายุ 56 ปี ปู่ของ ด.ญ.ส้ม กล่าวว่า ตอนแรกที่รู้เรื่องก็รู้สึกตกใจและเครียดมาก ไม่คิดว่าเพื่อนบ้านรายนี้ซึ่งมีอายุมากถึง 72 ปี จะกล้าทำกับเด็กที่ยังไร้เดียงสาได้ลงคอ อีกทั้งหลานของตนเองก็เป็นเด็กพิเศษด้วย ครั้งแรกที่เกิดขึ้นหลานสาวถูกกระทำชำเราที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนบ้านรายนี้ที่อยู่ห่างกับบ้านของตนเองไม่มมากนัก เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงปี 2563 ส่วนครั้งที่ 2 หลานสาวถูกล่อลวงไปกระทำชำเราที่โรงสีของชุมชน พอตนรู้เรื่องรู้สึกคับแค้นใจอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเพื่อนบ้านรายนี้ยังพูดจาข่มขู่ว่าถ้าหลานสาวเอาเรื่องไปบอกกับคนอื่นจะฆ่าให้ตาย จนหลานสาวต้องหวาดกลัวและหวาดระแวงคนแปลกหน้าอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันตนต้องเลี้ยงดูหลานสาวเพียงลำพัง เพราะพ่อเด็กเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนแม่ของเด็กก็ไปมีครอบครัวใหม่ หลังเกิดเหตุเพื่อนบ้านรายนี้ก็เข้ามาพูดคุยเพื่อยื่นขอเสนอให้จบเรื่องแต่ตนเองไม่ยินยอม และขอให้ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด
เบื้องต้น นายอธิปไตย ไกรราช ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นจะดำเนินการตามขั้นตอนพร้อมจะขอข้อมูลจาก สภ.วังทอง มาประกอบกับคำร้องทุกข์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากและเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนเข้ามาร่วมสอบถามเด็ก ไม่เช่นนั้นจะกระทบกับสภาพจิตใจของเด็ก ขอยืนยันพร้อมจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่อีกด้วย.
////////////////////////////