จากกรณีมีชาวนาชาวนา ม.10 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ถูกมิจฉาชีพเข้าไปหลอกให้ช่วยเหลือ โดยอ้างตัวเองว่ามาจากหน่วยงาน กอ.รมน.ของรัฐบาลโดยตรง เพื่อขอรับการสนับสนุนช่วยเหลือรัฐบาล โดยจะนำเงินไปซื้อเตียงผู้ป่วยโควิด และซื้อถังอ๊อกซิเจน พร้อมมีวัตถุมงคลพระเครื่องของรัฐบาลมามอบให้ด้วย จึงได้ช่วยเหลือไป 4,000 บาท ขณะที่ พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกอ.รมน. ได้ออกมายืนยัน ว่า ทาง กอ.รมน.ไม่มีการขอเรี่ยไรเงินจากประชาชน เพื่อนำไปสนับสนุนรัฐบาลนำเงินไปถังซื้อเตียงถังอ๊อกซิเจน ตามที่แอบอ้าง ทาง กอ.รมน.จังหวัดพิษณุโลกจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน ทางกอ.รมน.จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าวันที่ 26 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสายันต์ จันทร์จับ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/2 ม.10 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ชาวนาที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอก ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอวังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อแจ้งความต่อ พ.ต.ต.หญิงกัลยาณี ท่าโพธิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.วังทอง เพื่อให้ทำการสอบสวนดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ หลังแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. จากส่วนกลาง เพื่อมาขอความช่วยเหลือให้สนับสนุนรัฐบาล โดยจะนำเงินไปจัดซื้อเตียงและถังอ๊อกซิเจนช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ซึ่งจะนำเงินเข้ากองทุน กอ.รมน. เพื่อนำไปมอบให้กับทางรัฐบาล ปรากฏว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นการแอบอ้างหน่วยงานรัฐนายสายันต์ จันทร์จับ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากต้องการให้มีการสอบสอนดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เพื่อจะไม่ได้ไปสร้างปัญหาให้กับคนอื่น ตอนแรกที่ตนยอมช่วยเหลือไป เพราะเห็นว่ารัฐบาลกำลังเดือดร้อน จึงอยากสนับสนุนช่วยผู้ป่วยโควิด แต่ภายหลังมารู้ว่าถูกหลอก รู้สึกเสียใจเหมือนกัน จึงอยากฝากให้คนทั่วไปอย่าได้หลงเชื่อ ถ้าเจอบุคคลที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ขอให้แจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบ เพื่อจะไม่ต้องมาเสียรู้ให้กับแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงเหล่านี้ด้าน พ.ต.ต. ทวิช เติมมี สารวัตรสืบสวน สภ.วังทอง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้เสียหาย ทำให้ได้ข้อมูลรายละเอียดมากพอสมควร โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่ เพื่อไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อจะตรวจสอบรถยนต์ปิกอัพ 4 ประตู สีเทาดำ ทะเบียนกรุงเทพ ที่ใช้ในการก่อเหตุ นอกจากนั้นได้ตรวจสอบพอจะทราบกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้ว เนื่องจากได้ข้อมูลในเฟสบุ๊ก ซึ่งมีโลโก้ตรงกับกล่องใส่พระเครื่องที่นำไปให้ผู้เสียหาย คาดว่าน่าจะตรวจสอบได้ไม่ยาก