จังหวัดพิษณุโลกเตรียมพร้อมขยาย รพ.สนาม-ศูนย์พักคอย รับผู้ป่วยโควิด-19

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ที่ป้องประชุมบุณยวงศ์วิโรจน์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณินนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การ การระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดพิษณุโลก พร้อมวางมาตรการ และการเตรียมการควบคุมการระบาด แนวทางการรับ และดูแลผู้ป่วย และผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงการเตรียมการโรงพยาบาลสนาม การรองรับผู้ป่วยโควิด ของ รพ.พุทธชินราช และการปรับรูปแบบการให้บริการผู้ป่วยทั่วไป

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้วางมาตรการในการเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยที่จะเดินทางกลับจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ผู้ป่วยในปัจจุบันที่อาจจะเพิ่มขึ้น โดยจะแบ่งผู้ป่วยเป็นระดับสีเขียว คือระดับ 1-2 ไม่มีอาการไปจนถึงมีอาการเล็กน้อยให้อยู่ในพื้นที่ศูนย์พักคอย ยังไม่ต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ระดับ 3-4 ส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ถึงแม้จะมีการปรับแผนขยาย รพ.สนาม เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วย ที่คาดว่าจะเดินทางมาจาก กทม.และปริมณฑล เพื่อรักษาตัวที่ จ.พิษณุโลกให้ได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามบุคลากรทางการแพทย์ของเราไม่ได้เพิ่มจำนวนขึ้น ยังมีเท่าเดิม จึงอยากจะขอให้ประชาชนทุกคนยังคงเฝ้าระวังตัวเองให้มากที่สุด อย่าพาตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และป้องกันตัวเองตามมาตรการทุกอย่าง อย่างเคร่งครัดที่สุด

โดยในตอนนี้เราต้องรักษาชีวิตผู้ป่วยเอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก และเราก็เข้าใจดีว่ามีมาตรการต่างๆที่จังหวัดออกไป ทำให้ต้องกระทบกับประชาชนในบางกลุ่ม บางเรื่องอาจจะขัดแย้งกัน ก็ขอให้ทุกคนอดทนและเข้าใจการทำงานของเรา เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ยอดผู้ป่วยในจังหวัดของเราลดลง และทุกคนหายปลอดภัยได้กลับไปอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้ทางจังหวัดได้เตรียมลงสถานที่เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์พักคอย ซึ่งหากปริมาณผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทางจังหวัดจะเปิดศูนย์พักคอยทันที ซึ่งคาดว่าจะตั้งอยู่ที่ อาคารมิ่งขวัญ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งคาดว่าจะรองรับผู้ป่วยระยะ 1-2 ที่อยู่ในโซนสีเขียวได้ประมาณ 300-400 ซึ่งเป็นการรองรับผู้ป่วยที่พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรืออาการไม่หนัก โดยจะจัดชุด อสม.และ รพ.สต. ซึ่งมีนักเวชการสาธารณะสุข ที่มีความรู้เข้าไปดูแลที่ศูนย์พักคอย เพื่อแบ่งเบาภาระของแพทย์-พยาบาล ซึ่งจะมีการรายงานอาการผู้ป่วยกับทางโรงพยาบาลพุทธชินราช ตลอดเวลา ซึ่งหากรายได้ที่เริ่มมีอาการไประยะ 3 ระยะ 4 หรือเริ่มมีอาการหนักก็จะจัดรถโรงพยาบาลมารับตัวเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราชทันที

นอกจากนี้ยังได้รับรายการผู้ป่วยจากอุบัติเหตุฉุกเฉิน ผลจากการดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ลดลงเลย ถึงแม้ว่าทางจังหวัดได้ออกมาตรการห้ามจำหน่ายสุราไปแล้วก็ตาม ยังไม่ได้รับความร่วมมือที่ดี ทำให้เราต้องเสียกำลังบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อมาดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ทั้งๆที่กำลังของบุคลากรทางการแพทย์เหล่านั้นเขาก็ต้องดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาตรการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เข้มงวดขึ้น

ด้าน นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช กล่าวว่า ขณะนี้ทางแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ทำงานอย่างเต็มที่ การรับผู้ป่วยโควิดเข้ามารักษานั้น ได้กระทำอยู่แล้ว แต่ขอให้เป็นผู้ป่วยที่ยืนยันป่วยระดับ 3-4 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทั้งนี้ หากไปเป็นผู้ป่วยระดับ 1-2 ก็จะส่งไปยังโพงพยาบาลสนาม ทันที ซึ่งที่ผ่านมาทางแพทย์โรงพยาบาลทำงานกันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เช้าจนถึง 1 ทุ่มกันทุกวัน ซึ่งจากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทางโรงพยาบาลปัดรับการรักษาผู้ป่วยโควิดระยะแรกนั้น ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแต่อย่างใด ซึ่งขอความเห็นใจแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานกันอย่างหนัก

/////////////////////////

แสดงความคิดเห็น