วอนช่วยเหลือครอบครัวน้องใบเตย ชีวิตกระทบโควิด

วันที่ 25 มิถุนายน 2564  นางปิยนารถ  ศิริเจริญพันธ์  รองนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อมสมาชิกเทศบาลนครพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครพิษณุโลก พร้อม นายปัณณธร กมลพลพัต  ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4 (ชุมชนวัดธรรมจักร) และนางทัดดาว ละอองแก้ว ครูประจำชั้น ได้ลงพื้นที่บ้านเลขที่ 88/7 ถ.วังจันทน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อเยี่ยมและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ ด.ญ.วลีพร เอมโคกสรุด หรือน้องใบเตย อายุ 14 ปี นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4  โรงเรียนเทศบาล 4 (ชุมชนวัดธรรมจักร) และครอบครัว หลังจากทาง นางทัดดาว ละอองแก้ว ครูประจำชั้นได้ออกเยี่ยมนักเรียนตามโครงการเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน และพบว่าครอบครัวของน้องใบเตยหน้าสงสารและอยากให้การช่วยเหลือจึงได้แจ้งกับทางเทศบาลนครพิษณุโลกเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้น

สำหรับครอบครัวน้องใบเตย มีฐานะยากจน สภาพบ้านเป็นบ้านไม้สภาพชำรุดทรุดโทรม พื้นบ้านผุกร่อนรองรับน้ำหนักคนไม่ได้มาก  หลังคาเป็นสังกะสี ผุพังมีน้ำรั่วเวลาฝนตกหลายจุด ได้มีการนำผ้าใบมาปิดบังและถังน้ำมาไว้รองน้ำฝน บรรเทาความเดือดร้อนจากฝนตกชั่วคราว ภายในบ้านมีผู้อาศัยอยู่ด้วยกันจำนวน 8 คน มีทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยผู้พิการ โดยรายได้หลักมาจากนางสาวฐิติพร สุขมี อายุ 33 ปีผู้เป็นมารดาเด็กหญิงวลีพร  ประกอบอาชีพขายกล้วยทอด มันทอด เผือกทอด อยู่ ใกล้กลับแฟลตตำรวจ มีรายได้หักค่าต้นทุนเฉลี่ยวันละ 100-300 บาท แต่ช่วงนี้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนทำให้ ลูกสะบ้าแตกต้องใส่เฝือกดามขาไว้ เดินไม่สะดวกต้องใช้เวลาในการรักษาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ทำให้ช่วงนี้ไม่สามารถออกไปซื้อวัตถุดิบเพื่อมาประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้

ขณะที่ก่อนหน้านี้ เด็กหญิงวลีพร ได้ช่วยเหลือครอบครัวโดยการประกอบอาชีพต่อยมวย ภายใต้ชื่อ ใบเตย ศ.ท่ามะปราง เริ่มต่อยมวยตั้งแต่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นชกมากกว่า 30 ไฟท์ ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายชนะ โดยรายได้จากการชกมวยเฉลี่ยครั้งละ 300 – 700 บาท เป็นรายได้ที่มาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้ แต่ปัจจุบันไม่ได้ขึ้นชกมวย เนื่องจากปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หยุดการชกมวย กว่า 2 ปีแล้ว

นอกจากนี้ภายในบ้านยังมี ดต.จิรัน เอมโคกสลุด อายุ 66 ปี อดีตตำรวจ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาต และมีโรคประจำตัวหลายโรคอาทิ ความดัน เบาหวาน ไขมัน  เป็นภาระส่วนหนึ่งที่ครอบครัวต้องดูแลช่วยเหลือจุนเจือ เพราะ ดต.จิรัน มีรายได้จากเบี้ยผู้พิการ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ซึ่งทาง นางปิยนารถ ศิริเจริญพันธ์ รองนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก รวมกับคณะเทศมนตรี ได้รับการร้องเรียนจึงเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมกับนำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง ไข่ น้ำดื่ม พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัว เด็กหญิงวลีพร เอมโคกสลุด เป็นการเบื้องต้น หลังจากนั้นจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือ อาทิ ทางโรงเรียนช่วยสนับสนุนทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน หนังสือและอาหารกลางวัน ต่อไป

นายปัณณธร กมลพลพัต  ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4 กล่าวว่า จากการที่ครูประจำชั้น ออกเยี่ยมบ้านนักเรียน ตามโครงการเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน ช่วงเรียนออนไลน์ และช่วงเปิดเทอม เพื่อรับทราบสภาพปัญหาครอบครัวเด็กนักเรียน จึง ลงพื้นที่มาดูแลปัญหาด้วยตนเอง พบว่าสภาพครอบครัวอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็ก ค่อนข้างแออัดและบ้านมีสภาพทรุดโทรมไม่แข็งแรงใกล้ผุพัง  ประกอบกับ ครอบครัวมีฐานะค่อนข้างยากจน มีรายได้จากมารดา ค้าขายเพียงคนเดียวขณะที่บิดาเด็กนักเรียนได้รับจ้างทำงานก่อสร้างอยู่ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร มีรายได้ไม่มั่นคง ทำให้การส่งเงินมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว ไม่สม่ำเสมอ ทางโรงเรียนจึงได้ช่วยดูแล ในเรื่องของอุปกรณ์การเรียนและอาหารกลางวัน ในส่วนของน้องชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้นประถม 5 ขณะที่ ตัวนางสาววลีพร ปัจจุบันอยู่ชั้นมัธยม 3 ไม่สามารถดูแลด้านอาหารกลางวันได้ ทางโรงเรียนจะพยายามดูแลช่วยเหลือจุนเจือให้ได้มากที่สุด ระหว่างที่เด็กนักเรียนศึกษาอยู่ที่โรงเรียน พร้อมกันนี้ได้ขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาจนกว่านักเรียนจะเรียนจบอีกด้วย

 

ด้าน เด็กหญิงวลีพร กล่าวว่า ตอนนี้ตนเรียนอยู่ชั้น ม. 3 แล้ว หลังจากจบการศึกษาในปีนี้ คงจะไม่ได้เรียนต่อ เพราะครอบครัวไม่มีรายได้มากนัก หลังจากเรียนจบชั้น ม.3 ตั้งใจจะเรียน กศน. และทำงานช่วยเหลือมารดาหารายได้มาดูแลครอบครัวและช่วยส่งน้องเรียนหนังสือ ขณะนี้แม่มาประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ขาเดินได้ลำบาก ทำให้ไม่มีรายได้ ประกอบกับ covid ระบาดทำให้ตนไม่สามารถหารายได้จากการรับจ้างต่อยมวยได้ด้วย ทำให้ครอบครัวแทบไม่มีรายได้ บางวันต้องอด มื้อกินมื้อ

สำหรับผู้สนใจสามารถช่วยเหลือครอบครัว เด็กหญิงวลีพร สามารถช่วยเหลือได้ที่ธนาคารออมสิน สาขาพิษณุโลก เลขบัญชี 020296665613 ชื่อบัญชี เด็กหญิงวลีพร เอมโคกสลุด  หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 0946393498

…………………………………………

แสดงความคิดเห็น