จากกรณีที่เมื่อวานนี้ มีเหตุการณ์เด็กนักเรียน ม.3 ของโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ใจกลางเมืองพิษณุโลก ทำให้เป็นกระแสสังคมที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็กนักเรียนทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกัน หลายคนต่างสงสัยและตั้งคำถามมากมายว่าเกิดอะไรขึ้น และอะไรเป็นแรงจูงใจให้เด็กนักเรียน 1 คน ต้องนำอาวุธมีดมาแทงเพื่อนร่วมชั้นจนได้รับบาดเจ็บปางตายกันแน่ ซึ่งขณะนี้ยังคงมีเพียงฝ่ายของผู้ปกครองของผู้ได้รับบาดเจ็บที่ออกมาตั้งคำถามไปยังโรงเรียน และคู่กรณี เพื่อต้องการความชัดเจน
ล่าสุดเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์ ยังโรงเรียนเอกชนที่เป็นข่าว พบว่าทางโรงเรียนยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ แต่บรรยากาศยังคงเงียบ ประตูโรงเรียนเปิดแย้มไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่ รปภ.คอยทำบันทึกการเข้า-ออก ภายในโรงเรียน ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด ผู้สื่อข่าวจึงได้ทำการสอบถามไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่บอกได้เพียงว่า เด็ก 2 คนนั้น เรียนอยู่ในโรงเรียนนี้จริง อยู่ชั้น ม.3 และเป็นเพื่อนกัน แต่ไม่ทราบถึงสาเหตุ หรือแรงจูงใจในการก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ทราบเพียงว่าคณะครู-อาจารย์ ยังคงมีการประชุมหารือกันอยู่ ถึงมาตรการทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และมาตรการของการป้องกันเหตุการณ์แบบนี้เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก
สำหรับอาการของน้องต้นน้ำ เช้าวันนี้ภาพรวมอาการดีขึ้น บาดแผลที่ทำการผ่าตัดเริ่มสมานได้ดี เลือดออกน้อยลง โดยทีมแพทย์เริ่มฝึกกายภาพให้ลุกนั่งบ้างแล้ว แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์และพยาบาลอย่างใกลชิด
นอกจากนี้แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ได้เปิดเผยว่าขณะนี้ทางโรงเรียนได้ทำการลงโทษเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุด้วยวิธีการไล่ออกแล้ว เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดร้ายแรง อย่างไรก็ตามต้องรอทางโรงเรียนออกมาแถลงการณ์ยืนยันอีกครั้ง
โดยในวันพรุ่งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกจะเดินทางเข้าไปทำการตรวจสอบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นอีกครั้งเพื่อหามาตรการในการป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบสวนพยาน ที่เห็นเหตุการณ์ พยานแวดล้อม ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานไปประกอบสำนวนคดี พร้อมทั้งรอให้ ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นและสามารถให้การได้ และจะเข้าไปทำการสอบปากคำอีกครั้ง โดยขณะนี้ ขณะนี้ เชิญผู้ปกครองและนักเรียนผู้ก่อเหตุไปทำการสอบร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อวิเคราะห์ว่ามีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่ เพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป โดยเบื้องต้นได้ทำการตั้งข้อกล่าวหาแก่นักเรียนผู้ก่อเหตุ ในข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสไว้ก่อน
/////////////////////////