เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ (22 มิ.ย. 64 ) นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนางธนพร สุวรรณโณ จัดหางานจังหวัดพิษณุโลก พันเอกวัชรพงศ์ แก้วแจ้ง รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จังหวัดพิษณุโลก พ.ต.ท.รัฐกิตติ์ ศรีนิธิธีรโชติ สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดพิษณุโลก พ.ต.ท.วิรัตน์ วังตา สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 และ จ.ส.อ.จิรวัฒน์ พานทวีป เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร พันสารวัตรทหารที่ 31 รุดเข้าตรวจสอบแค้มป์คนงาน ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของโครงการก่อสร้างหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากสืบทราบว่ามีแรงงานต่างด้าว มาลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบสถานที่ดังกล่าว
จากการตรวจสอบงพบว่ามีแรงงานต่างด้าว จำนวน 53 คน แต่ไม่มีใบอนุญาติหรือพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย 11 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 9 คน สัญญาติกัมพูชา 2 คน ซึ่งโดยแรงงานต่างด้าวทั้ง 11 คน ทางผู้ประกอบการได้นำแรงงานต่างด้าวเข้ายื่นคำขอใบอนุญาตทำงานตามที่มติ ครม. เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 (แบบ บต.48 ) กับนายทะเบียนจังหวัดนครราชสีมา ระบุทำงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา แต่นายจ้างได้นำคนต่างด้าวทั้ง 11 คน ออกนอกเขตพื้นที่ท้องที่จังหวัดที่ได้จดทะเบียนประวัติไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ ซึ่งผิดเงื่อนไขตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย เรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การกระทำผิดดังกล่าว ทำให้สถานะของแรงงานต่างด้าว ทั้ง 11 คน ในการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย และการทำงานสิ้นสุดลง ตามความผิดพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง และผิดพระราชกำหนดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว พ.ศ. 2560 ข้อหา เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิที่กระทำได้ ตามมาตรา 8
พร้อมกันนี้ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้าง บริษัทรับเหมา ในข้อกล่าวหา เป็นนายจ้างเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก ส่วนแรงงานต่างด้าวจะดำเนินคดีตามกฎหมายและให้รับโทษตามกฎหมายของราชอาณาจักรไทยต่อไป
///////////