เมื่อวันที่ 7มิ.ย. 64 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เรียกประชุมด่วน หลังมีประชาชนในพื้นที่อำเภอวังทอง ได้เขียนป้ายเกี้ยวกับการซื้อขายยาเสพติดในพื้นที่ ทั้งได้ร้องเรียกผ่านไปทางหน่วยที่เกี่ยวข้องในจังหวัดหลายหน่วยงาน แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนอง จึงต้องขึ้นป้ายประชดประชัน เพราะได้รับผลกระทบจากผู้ค้าผู้เสพที่ใช้บริเวณพื้นที่ของผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นจุดนัดหมายและเป็นจุดผ่าน จนได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้หลับได้นอน เกรงจะเกิดอันตรายกับครับครัว
โดยในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียก หน่วยที่รับผิดชอบโดยตรง เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุ ฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่าย กอ.รมน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดับอำเภอและจังหวัด และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมารับทราบข้อปัญหา และการดำเนินขั้นตอนให้มีความรวดเร็ว พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน พร้อมตำหนิหน่วยงานที่ไม่ไปประสานผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า มีราษฎรในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง ได้ลงในสื่อออนไลน์ ได้รับความเดือดร้อน เพราะว่ามี คนซื้อขายยาบ้ามาผ่านบริเวณที่ของตัวเอง วันนี้ได้เรียกประชุม ทั้งตำรวจ ปปส.ภาค 6 กอ.รมน.จังหวัด รวมทั้งนายอำเภอ พื้นที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดจังหวัด เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด ข้อเท็จจริงทางอำเภอ และตำรวจ ทำงานในเรื่องนี้อยู่ เนื่องจากว่ารายนี้เป็นผู้ค้าที่จับตาอยู่ ซึ่งสภาพพื้นที่เป็นป่าเชื่อมไปหลายอำเภอ ทั้ง มี อ.ชาติตระการ อ.วัดโบสถ์ ทำให้สะดวกในการหลบหนีหลบซ่อน มีการปิดล้อมตรวจค้นหลายครั้งแต่ยังไม่ได้ตัว ต้องใช้เทคนิคเทคโนโลยีเข้ามาประกอบ ส่วนราษฎรที่เดือดร้อนได้ทำความเข้าใจ เพราะเส้นทางตรงนั้นต้องผ่านที่ของเขารถลาเสียงดัง จึงให้ทางอำเภอ ผู้กำกับไปชี้แจ้งทำความเข้าใจ ติดตั้งตู้แดง เพื่อสายตรวจจะได้ไปตรวจบ่อยๆ ให้ไปดูว่าถ้ามันมืดให้ขอความร่วมกับ อปท. ไปติกตั้งแสงสว่างโซล่าเซล ให้สว่างจะได้ไม่มีใครเข้าไปรบกวนเจ้าของพื้นที่
ผู้ว่าสองแคว กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ ทางอำเภอ และ สภ.แก่งโสภา ทำแผนให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ รายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบทุกสัปดาห์ ว่ามีแผนอย่างไร ปฏิบัติอย่างไร และได้ผลอย่างไร เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน เพราะเรามีชุดสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนก็ต้องลงพื้นที่ให้ถี่มากขึ้นเพราะถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมาย และอย่าไปทิ้งพื้นที่เดิมเป้าหมายอื่นที่ดำเนินการอยู่
ผู้ว่ารณชัย กล่าวอีกว่า ไม่ปฏิเสธเขาเคยร้องเรียนมา จากการสอบถามว่ามีการร้องเรียนจริงตามที่อ้างหรือไม่นั้น พบว่า มีการร้องเรียนจริง ทั้งศูนย์ดำรงธรรม ปปส.ภาค6 ทางตำรวจก็แล้ว ปรากฏว่าจริงทั้งหมด ตนได้ดูหลักฐาน แต่ไม่ได้แจ้งคนร้องให้รับทราบ ซึ่งเป็นข้อบกพร่องของเราที่ทำแล้วไม่ได้รายงาน ตนจึงเน้นให้ไปบอกกับคนร้องรับทราบว่าเรากำลังดำเนินการอยู่ ดีกว่าเงียบไปเลย โดยเฉพาะข้อมูลร้องเรียนยาเสพติด ตนได้สั่งการให้ ศูนย์ดำรงธรรม ปปส. และตำรวจ นำข้อมูลมาวิเคราะห์กันทุกอาทิตย์ เพื่อจะทราบรายละเอียด ทั้งผู้ค้าใหม่หรือคนค้าเก่า ตั้งทีมวิเคราะห์ยาเสพติดโดยเฉพาะ
