จากกรณี ร.ต.อ.สุรินทร์ ตะกรุดเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.แก่งโสภา จ.พิษณุโลก เข้าตรวจสอบเหตุฆ่ากันตาย หน้าบ้านเลขที่ 259 ม.8 บ้านหินประกาย ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบผู้เสียชีวิต คือ นายภาคภูมิ สุขตา อายุ 58 ปี อาชีพรับจ้าง และเป็นเจ้าของบ้าน ถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีที่ศีรษะและใบหน้า มีบาดแผลคราบเลือดติดเกรอะกรัง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชม. ในที่เกิดเหตุพบด้ามเสียมเปื้อนเลือดวางอยู่ข้างบ้าน น่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตาย ที่นั่งดื่มสุราด้วยกันในคืนเกิดเหตุ ไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.แก่งโสภา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 พ.ค. พ.ต.อ.ประมุข ปิ่นปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.แก่งโสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้หลังจากตำรวจชุดสืบสวนได้เค้นสอบปากคำผู้ต้องสงสัยแล้ว หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตาย คือ นายเปียบ พาคำป้อง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 8 บ้านหินประกาย ต.บ้านกลาง อ.วังทอง ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายภาคภูมิ สุขตา อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกัน แต่ไม่คาดคิดว่าจะถึงแก่ชีวิต เพราะตนเองก็ถูกผู้ตายใช้ไม้ตีที่หัวบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายได้ชักชวนตนกับเพื่อนอีกคนไปดื่มสุราที่บ้านพัก ตนเองก็ซื้อสุราขวดเล็กและไข่ไก่อีกจำนวน 10 ฟอง ติดมือไปด้วย จากนั้นได้ตั้งวงดื่มกินกันและผู้ตายเอ่ยปากขอไข่ไก่ไปทำกับแกล้ม แต่ตนเองไม่ให้เพราะจะนำไข่ไก่กลับไปทำกับข้าวที่บ้านเช่นกัน ผู้ตายจึงโมโหหาว่าตนไม่มีน้ำใจ พูดด่าทอต่างๆ นานา จนทำให้ทนไม่ไหวมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันขึ้น โดยผู้ตายไปหยิบไม้ไผ่ซึ่งเป็นด้ามเสียมมาตีที่หัวตนอย่างแรงจนหัวแตกเลือดไหลอาบ และยื้อแย่งไม้ไผ่กลับมาได้ก่อนฟาดเข้าไปที่ใบหน้าและศีรษะด้านขวาจนล้มลง โดยไม่คาดคิดว่าจะถึงกับเสียชีวิต จากนั้นจึงพากันแยกย้ายกลับเข้าบ้าน ปล่อยให้นายภาคภูมินอนซมเจ็บอยู่ กระทั่งช่วงเช้ามีชาวบ้านผ่านมาเห็นนายภาคภูมินอนถอดเสื้ออยู่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุ จึงคิดว่าเมาหลับตามปกติจึงไปเอาผ้าห่มมาคลุมให้ แต่กลับพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
ขณะที่ นางฐิตาภรณ์ ศานตินนท์เศรษฐ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านหินประกาย เปิดเผยว่า ปกติแล้วนายภาคภูมิ ผู้ตาย มีนิสัยชอบดื่มสุราและมักจะชักชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านอยู่เป็นประจำ ซึ่งก็เคยมีปากเสียงทะเลาะกันบ้าง ซึ่งตนก็เคยเข้ามาตักเตือนด้วยความหวังดี เพราะมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน แต่เมื่อคืนนี้ไม่ทราบว่าดื่มกินกันและทะเลาะกันเรื่องอะไร จนถึงขั้นลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันจนเสียชีวิต ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัว นายเปียบ พาคำป้อง ผู้ต้องหา ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวังทอง และจะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมดำเนินคดีในฐานความผิดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้ให้กู้ภัยนำร่างส่งผ่าชันสูตรพลิกศพที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป.
//////////