คุมตัวหนุ่มชิงทองทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พนง.ร้านทองขอบคุณตำรวจตามจับได้เร็ว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ที่ชิงทองหนัก 7 บาทจากห้างทองหวังโต๊ะกัง เยาวราช กลางห้างเทสโก้โลตัส สาขาโคกช้างได้แล้วเมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืน(3 พ.ค.64)นี้ และได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่า ผู้ต้องหาคือ นายเต้ย หรือโต หรือนายสุทธิพงษ์ กันจู อายุ 27 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ดีกรีเป็นถึงอดีตนักกีฬาทีมชาติ เคยร่วมการแข่งขันกีฬายูยิตสูสายดำ โดยจากการสอบสวนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากติดพนันออนไลน์ต้องการหาเงินไปใช้หนี้ โดยผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยไปดูลาดเลาที่ร้านทองชั้น 2 ของ ห้างเทสโก้โลตัสสาขาท่าทองก่อน แต่เนื่องจากเป็นเส้นทางในเมือง หลบหนีลำบาก จึงเปลี่ยนไปดูลาดเลาถึง 3 ครั้ง ที่ห้างทองหวังโต๊ะกังเยาวราช ห้างเทสโก้โลตัส สาขาโคกช้างแทน ก่อนที่ตัดสินใจชิงทองหนัก 7 บาทดังกล่าว

จากนั้นในช่วงเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปทำแผนไปประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขาโคกช้าง โดยจุดแรกเริ่มจากจุดที่ขับเอารถจักรยานยนต์มาจอดไว้บริเวณหน้าห้าง จากนั้นก็เข้าไปที่ร้านทองหวังโต๊ะกังเยาวราช ในตัวห้างก่อนทำทีเข้าไปติดต่อขอซื้อทอง และแกล้งหยิบโทรศัพท์มาคุยคนเดียว เพื่อตบตาพนักงานร้านให้เหมือนว่ากำลังคุยกับแฟนสาว เพื่อปรึกษาเลือกทองที่จำนำไปแต่งงาน ก่อนอาศัยจังหวัดที่หลอกให้พนักงานหันไปหยิบทอง กระชากทองออกจากมือของพนักงานอีกคน ก่อนจะรีบวิ่งออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าห้างแล้วรีบขับหลบหนีไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถรวบตัวได้ ขณะที่จะเตรียมหลบหนีออกนอกจังหวัดพิษณุโลกช่วงเช้าวันนี้

นายสุทธิพงษ์ กันจู อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาให้การต่อว่าหลังจากลงมือก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปทางเส้นสี่แยกอินโดจีน เข้าเส้นทาง ต.บึงพระ-วัดหล่ม ไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย และขับรถไปขายทองจำนวน 5 บาท ที่ร้านทองแถว ต.วังน้ำคู้ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เงินประมาณ 120,000 บาท ซึ่งร้านทองที่ไปขายทองนั้นอยู่ห่างจากห้างฯโลตัส สาขาโคกช้างที่ก่อเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร จากนั้นก็ไปซื้อ ปัตตาเลี่ยน มาโกนผมให้เกรียนและไปเช่าห้องพักรายวันอยู่ก่อนที่จะโดนตำรวจรวบตัวไว้ได้เมื่อคืนนี้พร้อมกับสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่ซุกซ่อนไว้ในหมอน โดยสารภาพว่าเงินบางส่วนที่ได้จากการขายทองได้นำไปใช้หนี้บ้างแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เป็นเรื่องที่สมมุติขึ้น ขณะเกิดเหตุก็กลัวไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนแต่ก็เพราะความโลภจึงตัดสินใจไปโดยอารมณ์ชั่ววูบ หลังจากนี้ก็ยอมรับผิดกับทุกสิ่งที่ทำลงไป และอยากจะขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้เดือดร้อน

พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ได้เปิดเผยว่าสำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ซื่งหลังจากเกิดเหตุ ก็ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ ที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเก็บรอยนิ้วมือแฝง หลังจากนั้นก็ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาหลักฐานเพิ่มเติมทั้งรถจักรยานยนต์ ตำหนิรูปพรรณสัณฐานบริเวณศรีษะด้านขวา เพื่อหาว่าคนร้ายเป็นใคร และส่วนของการอำพรางก็ชัดเจน หรือผู้ต้องหาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ มีการเตรียมชุดมาเปลี่ยนระหว่างทาง มีการตัดเปลี่ยนทรงผมใหม่ เรียกได้ว่าเป็นการเตรียมความพร้อมในการลงมือก่อเหตุ และวางแผนในการที่จะหลบหนี ซื่งขณะนี้ผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่าที่ลงมือก่อเหตุ เพราะติดหนี้พนันออนไลน์ และเสพยาเสพติด ประกอบสถานการณ์เศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ค่อยดีด้วยจึงลงมือ ก็ฝากเตือนสำหรับผู้ที่คิดจะก่อเหตุเช่นนี้ว่าอย่าทำเลย เพราะสุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีจนได้ ไม่คุ้มเลยกับชีวิตและอนาคตที่ต้องเสียไป และขอฝากเตือนให้พี่น้องประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในช่วงนี้ ให้ระวังเรื่องทรัพย์สินของตนเองทั้งที่บ้านและตามท้องถนน ในช่วงที่เกิดการระบาดโควิดเช่นนี้ ทางตำรวจเองก็จะเข้มงวดในคดีต่างๆมาขึ้นหากเกิดเหตุก็ต้องจับให้ได้ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6

ด้านพนักงานของร้านทอง ได้บอกว่าตอนนี้รู้สึกโล่งใจมาก เหมือนยกภูเขาออกจากอก และกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็วซื่งใช้เวลาเพียง 2 วัน ก็จับกุมได้ จากนี้ก็คงจะเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

/////////////////////////

 

แสดงความคิดเห็น