วันที่ 26 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้วัดใหญ่ หรือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เริ่มต้นปิดวิหาร งดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาภายในวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ตามคำแนะนำของสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ในเบื้องต้นมีกำหนดปิดระบะเวลา 20 วัน ตั้งแต่ 26 เมษายน-15 พฤษภาคม 2564 ส่วนกำหนดจะเปิดเมื่อไหร่อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุข ส่วนโซนอาคารร้านค้าและแผงจำหน่ายสลากกินแบ่งนั้น ยังไม่ได้ปิด แต่มีแนวโน้มว่าจะมีการปิดบริเวณดังกล่าวช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้
การปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาภายในวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช ปีนี้ นับเป็นครั้งที่สองแล้ว เมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิดตั้งแต่ปี 2563 ครั้งแรกช่วงเดือนเมษายน 2563 ได้ปิดวัดและวิหารมาแล้วหนึ่งครั้งตามคำสั่งของจังหวัดพิษณุโลก ปี 2564 ช่วงเริ่มมีการแพร่ระบาด วัดใหญ่มีมาตรการเข้มในการคัดกรองและป้องกันการแพร่เชื้อมาโดยตลอด ทั้งตรวจวัดอุณหภูมิ จัดอ่างน้ำให้ล้างมือ จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ ให้ลงชื่อ สแกนแอปไทยชนะ กำหนดทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัย ต้นเดือนเมษายนเริ่มกำหนดจำนวนการเข้าวิหารหลวงพ่อ เพื่อรักษาระยะห่าง จากนั้น ปิดไม่ให้เข้าไปในวิหาร แต่เปิดประตูวิหารให้นักท่องเที่ยวและประชาชนกราบได้บริเวณด้านหน้า กระทั่งวันนี้ 26 เมษายน 2564 ได้ปิดบริเวณวิหารทั้งหมด ไมให้เข้าไปภายในบริเวณ 
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ที่ชาวพิษณุโลกให้ความนับถืออย่างมาก แม้ว่าวัดใหญ่ จะปิดวิหาร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 ในทุก ๆ เช้า จะพบเห็นบรรยากาศประชาชนชาวพิษณุโลกที่เดินทางมาออกกำลังกาย สัญจรผ่านไปมาบริเวณหน้าวัด เชิงสะพานนเรศวร เมื่อผ่านบริเวณวัดใหญ่แล้ว ต่างจะพนมมือสาธุกับองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช
อนึ่ง เมื่อวันที่ 25 เม.ย.64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกได้รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิดรายวัน ของจังหวัดพิษณุโลก พบว่า ยังคงน่าเป็นห่วง พบผู้ป่วยเพิ่ม 12 ราย ทำให้ยอดสะสม ของจังหวัดพิษณุโลก สะสมอยู่ที่ 233 ราย รักษาหายออกจากโรงพยาบาล แล้ว 7 ราย ยังรักษาตัวอยู่ อีก 226 ราย ทางจังหวัดพิษณุโลกเร่งหามาตรการ ในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ออกคำสั่ง กำหนดมาตรการให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ต้องสวมใส่หน้าอนามัยหรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาเมื่อออกจากเคหสถาน หรือ จากที่พำนัก หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 51 พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และมีความผิดตามมาตรา 18 พรก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
…………………………………………..