เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 25 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์เกิดไฟไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านหนองไม้ยางดำ ต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก สังกัดสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พิษณุโลก เขต 2 เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่าเช้าวันนี้รถดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สภาพความเสียหายของอาคารเรียน เสียหายหมดทั้งอาคาร โดยเช้าวันนี้ยังคงมีกลุ่มควันบางจุดที่ยังพวยพุ่งออกมาเป็นระยะ เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้เก่า เสาทำจากไม้ ประชาชนในพื้นที่ ที่ทราบข่าว ก็ต่างมาช่วยกันเท่าที่ช่วยได้ โดยนำเก้าอี้มาตั้งเรียงให้ชาวบ้านที่มาดูความเสียหายนั่ง นำน้ำดื่มมาแจกจ่าย ให้กับชาวบ้านที่มารอช่วยเหลือ
ในเวลาต่อมา พ.ต.อ.ชนะชัย แสงศิริ ผกก.สภ.เนินมะปราง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้เข้ามาตรวจสอบสภาพความเสียหาย เพื่อหาร่องรอยที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นเพลิง พบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารไม้ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 หรือประมาณ 43 ปี โดยได้มีการต่อเติมชั้นล่างเป็นห้องปูนและกั้นห้องชั้นละ 3 ห้อง โดยชั้นล่างจากขวามือ เป็นห้องเรียน ชั้นอนุบาล1-3 ห้องกลางเป็นห้องผู้อำนวยการ กั้นแบ่งเป็นห้องธุรการ และ ห้องเรียนชั้น ป.4 ส่วนด้านซ้ายสุด เป็นห้องเรียนชั้น ป.1-ป.3 ส่วนอาคารไม้ชั้นบน ก็กั้นเป็น 3 ห้องเช่นเดียวกัน เริ่มจากซ้ายมือ เป็นห้องเรียนชั้น ป.5-ป.6 ห้องกลางเป็นห้องพยาบาล และขวามือสุดเป็นห้องเก็บของ จำพวกแฟ้มเอกสารต่างๆ คอมพิวเตอร์เก่า และอุปกรณ์สำนักงานที่ไม่ได้ใช้แล้ว
จากการสอบถามนายมานพ ขุนกำแหง อายุ 61 ปี ครูเกษียณอายุที่มีบ้านพักอยู่ด้านหน้าโรงเรียนเล่าให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงค่อนแจ้งมีชาวบ้านมาตะโกนเรียกว่าเห็นกลุ่มควันไฟ และประกายไฟที่อาคารเรียน ตนก็รีบวิ่งข้ามถนนมาดู พร้อมเรียกชาวบ้านใกล้เคียงให้มาช่วยกัน แต่ระยะเวลาเพียงแป๊บเดียวที่วิ่งมา ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เพราะเพลิงได้โหมลุกไหม้อาคารเรียนทั้งหลังอย่างรุนแรง ประกอบกับมีลมแรงพัดเปลวไฟลุกลามทั่วทั้งหลังอย่างรวดเร็วไม่สามารถเข้าไปเอาอะไรออกมาได้เลย พอตั้งสติกันได้ เห็นไฟกำลังจะลุกลามไปที่อาคารเอนกประสงค์ ชาวบ้านก็รีบช่วยกันนำอุปกรณ์พวกเครื่องพ่นยาข้าวที่ใส่น้ำมาฉีดพ่นเข้าไปที่ตัวอาคารเอนกประสงค์ที่อยู่ใกล้เคียงจนกระทั่งรถดับเพลิงมาช่วยฉีดน้ำสกัด ทำให้เพลิงไม่ลุกลามไปที่อาคารเอนกประสงค์ แต่ตัวของอาคารเรียนอายุกว่า 43 ปี เสียหายทั้งหลัง ซึ่งชาวบ้านทุกคนก็ช่วยกันอย่างสุดความสามารถแล้ว บางคนก็ถึงกับร้องไห้เพราะอาคารเรียนดังกล่าวเป็นอาคารไม้เก่าที่บรรพบุรุษได้มาช่วยกันสร้างไว้สมัยโรงเรียนเริ่มเปิดใหม่ ทุกคนต่างเสียดาย
ด้านนางนงนุช กมลรัตน์ อายุ 42 ปี ครูชำนาญการ กล่าวว่า โรงเรียนบ้านหนองไม้ยางดำ เป็นโรงเรียนขนาดเล็กสังกัด สพป.พล เขต 2 มีครูทั้งหมดรวม ผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยก็ 4 คน ทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้น อนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 6 มีเด็กนักเรียนทั้งหมด 51 คน ขณะนี้เป็นในช่วงปิดภาคเรียน มีกำหนดจะเปิดเรียนในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ส่วนสภาพความเสียหายของอาคารเรียนคือเสียหายทั้งหมดเลย ไม่เหลืออะไรเลย นอกจากองค์พระพุทธชินราช ที่เข้าไปเอาออกมาได้เมื่อเช้านี้ ตอนนี้สงสารเด็ก ยังไม่รู้ว่าเด็กจะเรียนที่ไหน หากครบกำหนดเปิดเทอม ก็อาจจะต้องเกณฑ์ชาวบ้านมาช่วยกันทำอาคารเรียนชั่วคราวก่อน แต่สิ่งที่เสียดายคือ อุปกรณ์ การเรียนการสอนทั้งหมด พวกหนังสือ คอมพิวเตอร์ โต๊ะเก้าอี้ต่างๆ ไม่มีอะไรเหลือเลย สิ่งแรกที่ต้องการความช่วยเหลือก่อน ก็คงเป็น โต๊ะ-เก้าอี้ ให้เด็กนั่งเรียนก่อน หากทำเพิงอาคารเรียนชั่วคราว และแบบการเรียน-การสอน ก็คงต้องรอผู้บริหารประชุมกันอีกครั้งก่อน เบื้องต้นหากผู้ต้องการช่วยเหลือ สนับสนุนโต๊ะเก้าอี้ หรือ อุปกรณ์การเรียน ให้นักเรียนเป็นการเบื้องต้นก็สามารถสอบถามได้ที่ 065-0706809
เบื้องต้นศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใด แต่เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน บาท
////////////////////////