วันที่ 10 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กรณีเสาวิทยุกระจายเสียงของสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.พิษณุโลก หรือ สอต.104.25 MHz ที่มีความสูงประมาณ 105 เมตร หักโค่นลงมาทับบ้านเรือนประชาชน พังเสียหายจำนวน 2 หลังคาเรือน เนื่องจากเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในเขต อ.เมืองพิษณุโลก เหตุเกิดช่วงกลางคืนวันที่ 4 มี.ค. 2563 ซึ่งเวลาผ่านมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ทางครอบครัวผู้เสียหายยังไม่ได้รับเงินเยียวยาค่าซ่อมแซมแต่อย่างใด ทำให้การอยู่อาศัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 44/25 หมู่ 3 ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก โดยมี นายพจน์ จันทร์หอม อายุ 71 ปี และ นางปราณี วิเศษสรรค์ อายุ 63 ปี สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของบ้านพัก พร้อมพาไปดูบริเวณที่ได้รับความเสียหาย คือ ห้องครัว ห้องนอน สภาพฝ้าเพดานพังหลายแห่ง สายไฟห้อยโตงเตง หลังคาแตกเสียหาย แต่ได้ซ่อมแซมไปบ้างแล้วเป็นบางส่วน โครงเหล็กหลังคาห้องครัวหักคาลงมายังไม่ได้ซ่อมแซม นอกจากนี้รั้วของบ้านก็พังเสียหายเป็นรูโหว่ด้วย และยังมีเศษอิฐ เศษปูน เศษกระเบื้อง วางกองอยู่เป็นจุดๆ
ด้าน นางปราณี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นผ่านมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ครอบครัวของตนยังไม่ได้รับเงินเยียวยาค่าซ่อมแซมบ้านพักจากกรมอุตุนิยมวิทยา จึงอยากให้เร่งดำเนินเรื่องช่วยเหลือโดยด่วน ถึงจะเป็นภัยธรรมชาติแต่ก็เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานภาครัฐ ที่ก่อความเสียหายกับประชาชน เพราะขณะนี้ครอบครัวเดือดร้อนเป็นอย่างมาก อีกไม่นานเดี๋ยวพายุฝนก็จะมาอีกรอบ ต้องทนนอนเปียกๆ เพราะหลังคายังรั่วอยู่ ถ้าฝนตกหนักๆ มีลมก็จะสาดเข้ามาในบ้าน ตนเองก็หาเช้ากินค่ำไม่มีเงินไปซ่อมแซมบ้านพักให้กลับมาสภาพเดิม สามีก็เครียดถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 4 วัน และเป็นโรคหัวใจด้วย ตอนเกิดเหตุครั้งนั้นก็ตกใจมาก ที่ผ่านมาก็มีหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือบ้าง ส่วนสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.พิษณุโลก ก็เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมมอบเงินซ่อมแซมหลังคาให้จำนวนหนึ่ง แต่ค่าเสียหายประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ซึ่งได้มีการพูดคุยตกลงค่าเสียหายกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าขณะนี้ติดขัดขั้นตอนใดจึงยังไม่สามารถจ่ายเงินเยียวยาความเสียหายทั้งหมดได้
ขณะที่บ้านพักของ น.ส.วิไลพร จันต๊ะกูล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/26 หมู่ 3 ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก ผู้เสียหายอีกราย ที่มีบ้านอยู่ติดกันกับบ้านของนายพจน์ จันทร์หอม และ นางปราณี วิเศษสรรค์ ก็ได้รับความเสียหายจากเสาวิทยุกระจายเสียงของสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.พิษณุโลก โค่นล้มทับบ้านอีกด้วย โดยสภาพบ้านยังมีร่องรอยความเสียหายหลายจุด อาทิ ห้องโถงหน้าบ้านพบว่าหลังคารั่ว จนน้ำย้อยใส่ฝ้าเพดานเป็นคราบน้ำอย่างเห็นได้ชัด และฝ้าเพดานห้องนอนพังถล่มลงมาหลายแผ่น ส่วนหลังคาบ้านก็แตกด้วย แต่ได้ซ่อมแซมไปบ้างแล้วให้พออยู่อาศัยได้ไปก่อน
ด้าน น.ส.วิไลพร จันต๊ะกูล ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอเงินเยียวยาช่วยเหลือค่าซ่อมแซมบ้านอีกประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งเวลาผ่านมากว่า 1 ปี ติดต่อสอบถามไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วหลายครั้ง แจ้งกลับมาเพียงว่าเรื่องอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาจ่ายเงินของกรมบัญชีกลาง ซึ่งทุกวันนี้ครอบครัวยังเดือดร้อนอยู่ เพราะที่อยู่อาศัยยังมีความเสียหายและไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ฝนตกหนักๆ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านก็เปียกเสียหายทั้งหมด จึงอยากให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยด่วน เพราะตนเองเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย เวลาล่วงเลยผ่านมานานกว่า 1 ปีแล้ว ถือว่าการช่วยเหลือล่าช้ามาก ที่ชาวบ้านต้องทนทุกข์แบบนี้ จนครอบครัวตนเองต้องไปร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.พิษณุโลก
ขณะที่ นายประพฤติ ยอดไพบูลย์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมามีการเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เสาวิทยุกระจายเสียงของสถานีหักโค่นทับบ้านเรือนประชาชนในทันที พร้อมมอบเงินค่าซ่อมแซมเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง โดยมีหน่วยงานท้องถิ่น คือ เทศบาลตำบลท่าทอง เข้าไปช่วยเหลือร่วมด้วย และตนก็พาครอบครัวผู้เสียหายไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.ชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร ท้องที่เกิดเหตุ ส่วนเรื่องดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาค่าเสียหายนั้นอาจจะล่าช้า เนื่องจากกรมบัญชีกลางต้องพิจารณาให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง รอบคอบ และเหมาะสม ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเบิกจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากเงินรายรับตามระเบียบกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงินรายรับของสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา ตามหนังสืออ้างถึงกรมบัญชีกลางเนื่องจากค่าสินไหมทดแทนกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนเงินที่สูง และความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากเสาวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยาล้มทับบ้านเรือนผู้เสียหาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายเงินให้กับครอบครัวผู้เสียหายได้ในเร็วๆ นี้ อย่างแน่นอน.
////////////////////////////////////////////////////////