พ่อ-พี่สาวรับเถ้ากระดูกสาวถูกแฟนฆ่าเผาไปบำเพ็ญกุศล อยากให้นำตัวมาขอขมา แต่ไม่ขออโหสิกรรมให้

เมื่อเวลา  18.00 น.ของวันที่  9 มีนาคม  2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่นิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก นายบรรดิษฐ กุนนะ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่  1031/1 หมู่  25 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยนางสาวพิมพ์ชนกพ์ กุนนะ อายุ 39 ปี พี่สาวของของน.ส จุฬารัตน์ กองแก้ว อายุ  19 ปี ที่ถูกนายแม้ว แฟนหนุ่มอายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวังทอง บีบคอจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปเผานั่งยางที่ท้ายไร่มัน ในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยพ่อและพี่สาวและป้ามารับเถ้ากระดูกของ น.ส.จุฬารัตน์ ที่นิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน

นายบรรดิษฐ กุนนะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ตนและภรรยายังรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ลูกสาวถูกนายแม้ว แฟนหนุ่มฆ่าบีบคอจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปเผาเพื่ออำพรางคดี ซึ่งตนเองและภรรยายังติดใจว่า ขั้นตอนการนำศพไปเผานั้น เชื่อว่าต้องมีคนที่ช่วยเหลือในการนำศพไปเผาไม่ต่ำกว่า  3-4 คน เนื่องจากการเผากว่าจะไหม้จนกระดูกนั้นต้องใช้ยางรถยนต์หลายเส้น แต่ต้องมีคนช่วยเหลือในการเผาจนเหลือแต่กระดูก อยากให้สื่อมวชนเป็นสื่อกลางที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีด้วยความเป็นธรรมและหาผู้กระทำผิดเพิ่ม ซึ่งตนเองเชื่อว่าทำคนเดียวไม่ได้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนกระแสที่ทางญาติไปกดดัน ไม่ให้นายแม้วมารักใคร่กับลูกสาวตนเองอีก จนเป็นเหตุให้ก่อเหตุสะเทือนขวัญนั้น นายบรรดิษฐ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่จริงแต่อย่างใด เพราะว่านายแม้ว เคยมาหมั้นกับลูกสาวของตนเองจริง ด้วยทองทำหนัก 1 บาทเท่านั้น ไม่มีเงินแสนมาหมั่นแต่อย่างใด ทางครอบครัวก็ไม่ได้ต่อว่าและรอให้นายแม้ว มาแต่งงานให้ถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งรอมา 2-3 ปี ก็ยังไม่มีวี่แววอะไร แต่ก็เห็นว่าลูกสาวตนและนายแม้ว ก็อยู่ด้วยกันไม่มีเรื่องอะไรกันมาก่อน เห็นว่ารักกันดีอยู่ จึงไม่ทราบว่า นายแม้ว จะก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกสาวจนเป็นเหตุเสียชีวิต  ก็ไม่ทราบว่าจิตใจมันทำด้วยอะไร ก็อยากให้มันมาขอขมาศพ แต่พ่อและแม่ไม่ให้อภัยมันอย่างแน่นอน

ด้านนางสาวพิมพ์ชนกพ์ กุนนะ พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวตนเองต้องมาสูญเสียน้องสาวไป โดยไม่มีลางบอกเหตุมาก่อน  ตนเองและครอบครัว ยังติดใจในการนำร่างของน้องสาวไปเผา น่าจะมีหลายคนที่ช่วยกัน อยากขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยความเที่ยงตรง และนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนผลการตรวจชันสูตรกระดูกของน้องสาวของตนเองนั้นทางแพทย์จะส่งผลไปที่บ้านในภายหลัง แต่ก็สามารถนำเถ้ากระดูกไปบำเพ็ญกุศลได้ ซึ่งตั้งใจจะบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ไว้ 3 วัน แล้วก็จะฌาปนกิจต่อไป

///////////////

 

แสดงความคิดเห็น